บทคัดย่อ
ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โรคเบาหวานมีแนวโน้มในการเป็นปัญหาสำคัญขึ้นเรื่อยๆในประเทศไทย ปัจจุบันมีผลการศึกษาวิจัยในต่างประเทศระบุอย่างชัดเจนว่า มาตรการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานในกลุ่มเสี่ยงสูงลงได้ร้อยละ 31-58 แต่ในประเทศไทยยังขาดการประเมินในเรื่องนี้ การวิจัยครั้งนี้เป็นการทดสอบประสิทธิผลของรูปแบบการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแบบเข้มข้นสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานชนิดที่ 2 เป็นการศึกษาในรูปแบบกึ่งการทดลอง(Quasi-experimental study) นำรูปแบบมาตรการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแบบเข้มข้นในเรื่องการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย ตลอด 24 สัปดาห์ ผู้เข้าร่วมการศึกษาเป็นคนที่มีภาวะน้ำหนักเกิน(ดัชนีมวลกายตั้งแต่ 25 กิโลกรัม/ตารางเมตร) โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือกลุ่มที่ได้รับมาตรการดังกล่าวจำนวน 41 คน และกลุ่มซึ่งได้รับบริการตามปกติจำนวน 61 คน แล้วเปรียบเทียบประสิทธิผลของแต่ละกลุ่มเมื่อสิ้นสุดการวิจัย จากการวิเคราะห์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงตามดัชนีตัวชี้วัดด้านกายภาพและด้านชีวเคมี ไม่พบความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระหว่าง ๒ กลุ่ม แต่เมื่อวิเคราะห์เปรียบเทียบแยกในคนที่มีภาวะอ้วน(ดัชนีมวลกายตั้งแต่ 30 กิโลกรัม/ตารางเมตร) พบว่าในกลุ่มที่ได้รับมาตรการมีการเปลี่ยนแปลงน้ำหนักที่ลดลงแตกต่างกับกลุ่มที่ได้รับการบริการตามปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ(95% CI = -1.976 – -0.019, p-value = 0.046) ทำให้เห็นได้ว่าโปรแกรมนี้อาจมีความเหมาะสมกับคนที่มีภาวะอ้วน อย่างไรก็ตามต้องมีการศึกษาติดตามในระยะยาวต่อไป
บทคัดย่อ
In the past decade, Diabetes Mellitus tends to become more and more important problem in Thailand.
Nowadays, research results clearly indicate that behavioral change strategies can decrease complications
and death among Diabetes patients. Several studies in China, Finland and USA have reported that intensive behavioral modification program focusing on exercise and weight loss certainly decreases the
risk of Diabetes in high risk group by 31-58 percent. Previous related researches in Thailand have found
that giving knowledge alone have led to negative outcome of Diabetes patient care. This research aimed to
test the effectiveness of intensive behavioral modification program for individual at risk of type 2 diabetes.
This Quasi-experimental research is to study effectiveness of intensive behavioral modification model
which focuses on diet and exercise for 24 weeks. Participants who are overweighed person (BMI > 25 kg/
m2) were divided into two groups. Forty-one participants attended the intensive model while 61 participants
received standard care. Effectiveness of the groups was compared at the end of the study. From data
analysis made through changes of both physical and biochemical indicators, there was no significant
difference found between two groups but subgroup analysis in overweight group (BMI > 30 kg/m2)
indicate that the experimental group significantly lost more weight than control group (95%CI= -1.976 - -
0.019, p-value = 0.046). This finding shows that the program is more suitable for overweight person. However,
long term study is still needed.