บทคัดย่อ
การเจ็บป่วยฉุกเฉินและอุบัติเหตุเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดความสูญเสียและเป็นสาเหตุการตายอันดับต้นของประชากรไทย การมีระบบการดูแลก่อนถึงโรงพยาบาลที่ดีจะช่วยลดอัตราการสูญเสียได้ กระทรวงสาธารณสุขจึงมีนโยบายให้โรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศจัดตั้งระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินขึ้นเพื่อลดอัตราการตายและลดความพิการ แต่การเรียกใช้ระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินในจังหวัดเชียงใหม่ยังไม่เป็นที่แพร่หลาย ส่วนใหญ่เมื่อเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุมักจะมาโรงพยาบาลด้วยตนเอง วัตถุประสงค์ ศึกษาสาเหตุของการไม่เรียกใช้บริการการแพทย์ฉุกเฉินของผู้มาใช้บริการห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่เมื่อเกิดความเจ็บป่วยฉุกเฉินหรือเกิดอุบัติเหตุ เพื่อหาโอกาสพัฒนาและรณรงค์ระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินของโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่และของจังหวัดเชียงใหม่ต่อไป กลุ่มตัวอย่างและวิธีการศึกษา การศึกษาโดยการสังเกตเชิงพรรณนาแบบเก็บข้อมูลไปข้างหน้า โดยเก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถามจากผู้นำส่งหรือผู้ป่วยที่เข้ามารับบริการห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ที่มีระดับความรุนแรงจากการคัดแยก (Triage) เป็นระดับที่ 1 Resuscitation ระดับที่ 2 Emergency และระดับที่ 3 Urgency โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่มาเองและกลุ่มที่มาด้วยบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ระหว่างเดือนมีนาคม ถึงตุลาคม พ.ศ.2554 ผลการวิจัย มีผู้เข้าร่วมในการศึกษาทั้งหมด 102 คน โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่มาโรงพยาบาลด้วยตัวเอง 64 ราย และกลุ่มที่มาโรงพยาบาลด้วยบริการการแพทย์ฉุกเฉิน 38 ราย ทั้งหมดเป็นผู้ป่วยอุบัติเหตุ(trauma) 44 ราย ผู้ป่วยฉุกเฉิน (non trauma) 58 ราย แบ่งตามระดับการคัดแยก (Triage) เป็นระดับที่ 1 Resuscitation 4 ราย ระดับที่ 2 Emergency 42 ราย ระดับที่ 3 Urgency 56 ราย โดยปัจจัยทางด้านเพศ ระดับการศึกษาและอาชีพไม่มีผลต่อการเรียกใช้บริการการแพทย์ฉุกเฉิน สาเหตุที่ไม่เรียกใช้บริการการแพทย์ฉุกเฉินอันดับแรกให้เหตุผลว่ามีรถส่วนตัวสามารถมาโรงพยาบาลเองได้ร้อยละ 64.1 อันดับที่สองคือไม่รู้จักบริการการแพทย์ฉุกเฉินร้อยละ 50 และอันดับที่สามคือรู้สึกว่าการบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยนั้นเล็กน้อยไม่จำเป็นต้องเรียกรถพยาบาลมารับร้อยละ 25 สื่อที่ทำให้รู้จักบริการการแพทย์ฉุกเฉิน อันดับแรกคือป้ายโฆษณาหรือป้ายข้างทาง รองลงมาคือโทรทัศน์และวิทยุตามลำดับ สรุป สาเหตุที่คนเชียงใหม่ไม่เรียกใช้บริการการแพทย์ฉุกเฉิน เกิดจากการไม่ทราบถึงบริการ ไม่เห็นความสำคัญ และไม่ไว้วางใจในบริการ
บทคัดย่อ
Background: Acute illness and accidents are the leading cause of death in Thailand. Developing a
good systematic pre-hospital care can help reducing morbidity and mortality. To achieve this goal, the
Ministry of Public health has issued a policy for all hospitals in Thailand to set up an Emergency Medical Service (EMS) system. Nevertheless, this service system is not widely acknowledged in Chiang Mai. Most
of the patients did not use the service and go to the hospital by themselves Objective: To determine reasons
of underuse of Emergency Medical Service in patients visiting the Emergency room, Maharaj Nakorn
Chiang Mai hospital. Methods: This was a prospective observational study by means of questionnaires
filled by the patients or anyone accompanied them to the emergency room, Maharaj Nakorn Chiang Mai
hospital. Only 3 level of triage was used; level 1-Resuscitation, level 2-Emergency, and level 3-Urgency.
This study was conducted during the period from March to October 2011. Analysis was made by dividing
participants into 2 groups; patients coming to the emergency room by themselves, and the ones coming
by using EMS system. Results: There were 102 participants; 64 coming by themselves and 38 using EMS.
There were 44 traumatic patients, and 58 non traumatic patients. 4 participants were of triage level 1
Resuscitation, 42 of triage level 2 Emergency and 56 of triage level 3 Urgency. Sex, degree of education and
occupation were not related to EMS activation. Many reasons accounted for this problem; 64.1% of the
patients had their own vehicles, 50% did not know of the service, and 25% thought that their symptoms
were insufficient to activate EMS system. People in Chiang Mai learned of the EMS system through many
advertising media, in sequentially billboards, television, and radio programs. Conclusion: The reasons of
underuse of EMS system in Chiang Mai were: unknown of existence, failure to recognize the importance,
and doubt in the Emergency Medical Service systems.