Show simple item record

Screening Service for Diabetics and Persons at Risk of Diabetes in Bangmunnak District, Phichit Province

dc.contributor.authorจิระพันธุ สุขขีen_US
dc.contributor.authorJirapant Sukkeeen_US
dc.coverage.spatialพิจิตรen_US
dc.date.accessioned2008-10-03T07:49:37Zen_US
dc.date.accessioned2557-04-16T15:56:36Z
dc.date.available2008-10-03T07:49:37Zen_US
dc.date.available2557-04-16T15:56:36Z
dc.date.issued2550en_US
dc.identifier.citationวารสารวิจัยระบบสาธารณสุข. 1,2 (ก.ค.-ก.ย. 2550) (ฉบับเสริม1) : 51-58en_US
dc.identifier.issn0858-9437en_US
dc.identifier.urihttp://hdl.handle.net/11228/368en_US
dc.description.abstractเครือข่ายสุขภาพบางมูลนาก-ดงเจริญ จังหวัดพิจิตร มีนโยบายทำการป้องกันและควบคุมโรคเบาหวาน โดยจัดโครงการค้นหาผู้ป่วยด้วยเครื่องวัดระดับน้ำตาลจากปลายนิ้ว เมื่อพบผู้ที่มีระดับน้ำตาลสูงกว่า 110 มก./ดล. จึงส่งต่อโรงพยาบาลเพื่อเจาะเลือดวัดระดับน้ำตาลหลังอดอาหาร การดำเนินการดังกล่าวทำให้เกิดความแออัดที่โรงพยาบาล การบริการล่าช้า ความพึงพอใจของผู้บริการลดลง นอกจากนั้นยังไม่มีการสร้างเสริมสุขภาพจากการให้ความรู้ประชาชนทางด้านโภชนาการและการออกกำลังกาย ผู้วิจัยจึงจัดโครงการคัดกรองผู้ป่วยเบาหวานและกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน โดยทีมสหวิชาชีพขึ้นที่สถานีอนามัย เพื่อวางรูปแบบการคัดกรองผู้ป่วยเบาหวานและกลุ่มเสี่ยง หาความพึงพอใจของผู้ป่วยเบาหวานและกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน โดยการให้ความรู้และสาธิตด้านโภชนาการและการออกกำลังกายโดยทีมสหวิชาชีพที่สถานีอนามัยและเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยของความรู้ด้านโภชนาการและการออกกำลังกา ก่อนและหลังให้ความรู้ของผู้ป่วยเบาหวานและกลุ่มเสี่ยง การศึกษาทำที่สถานีอนามัยในเขตอำเภอบางมูลนาก 7 แห่ง ในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน พ.ศ. 2548 กลุ่มเป้าหมายคือผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปที่ตรวจพบมีระดับน้ำตาลในเลือดตั้งแต่ 110 มก./ดล. ขึ้นไป ทางสหวิชาชีพจะลงไปทำการทดสอบความรู้ด้านโภชนาการและการออกกำลังกายของกลุ่มตัวอย่างแล้วให้ความรู้และสาธิตด้านโภชนาการและการออกกำลังกาย หลังจากนั้นทดสอบความรู้หลังให้สุขศึกษา และประเมินความพึงพอใจของกลุ่มตัวอย่างและเจ้าหน้าที่สถานีอนามัย จากการศึกษากลุ่มประชากรตัวอย่าง 77 รายเป็นผู้ป่วยเบาหวาน 29 ราย และกลุ่มเสี่ยงเบาหวาน 48 ราย อัตราส่วนหญิงต่อชาย 3.8:1 กลุ่มอายุส่วนใหญ่ คือ 41-50 ปี และ 51-60 ปี น้ำหนักตัวเฉลี่ย 63.56 กก. ส่วนสูงเฉลี่ย 154.98 ซม.ดัชนีมวลกายเฉลี่ย 28.74 กก./ตร.ม. ผู้ที่ดัชนีมวลกาย≥ 25 กก./ตร.ม. มี 37 ราย คิดเป็นร้อยละ 48.05 การสำรวจความพึงพอใจพบว่าผู้ป่วยพึงพอใจโดยรวมร้อยละ 100 และพอใจในทุกหัวข้อ ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางลงได้ 7.5 เท่า การทดสอบความรู้ด้านโภชนาการ เพิ่มขึ้นจากคะแนนเฉลี่ย 7.74 คะแนนก่อนการให้ความรู้ เป็น 8.94 คะแนนหลังให้ความรู้ ความรู้ด้านการออกกำลังกายเพิ่มขึ้นจากคะแนนเฉลี่ย 7.34 ก่อนการให้สุขศึกษา เป็น 8.44 คะแนนหลังให้สุขศึกษา ผลการทดสอบให้ความรู้ด้านโภชนาการและการออกกำลังกายโดยใช้ paired t-test ปรากฏว่าผู้ป่วยและกลุ่มเสี่ยงมีความรู้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ เจ้าหน้าที่สถานีอนามัยพอใจวิธีบริการดังกล่าวโดยรวมร้อยละ 100 ผลการศึกษาแสดงว่าการปฏิบัติการคัดกรองผู้ป่วยและให้ความรู้ด้านโภชนาการและการออกกำลังกายที่สถานีอนามัย/ศูนย์สุขภาพชุมชน ทำให้ผู้ป่วยเบาหวานสะดวกในการเดินทาง ประหยัดค่าใช้จ่าย มีความพึงพอใจ ไม่ต้องมารอคอยอย่างแออัดที่โรงพยาบาล และมีความรู้ทางด้านโภชนาการและการออกกำลังกายเพื่อนำไปใช้ในการปฏิบัติตัวดีขึ้นen_US
dc.language.isothen_US
dc.publisherสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขen_US
dc.rightsสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขen_US
dc.titleบริการคัดกรองผู้ป่วยเบาหวานและกลุ่มโรคเบาหวานโดยทีมสหวิชาชีพที่สถานีอนามัย อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตรen_US
dc.title.alternativeScreening Service for Diabetics and Persons at Risk of Diabetes in Bangmunnak District, Phichit Provinceen_US
dc.typeArticleen_US
dc.description.abstractalternativeThe practice of the Bangmunnak-Dongcharoen Health Network in carrying out the policy of preventive control of diabetes mellitus had been by screening patients and high risk groups using capillary blood glucose levels greater than 110 mg/dl. Such persons would be sent to the hospital for conventional diagnosis. However, this process created considerable inconvenience as a result of overcrowding with attendees; satisfaction dropped and attendees missed the opportunity to obtain important knowledge about nutrition and exercise. The author thus created a model for the screening of diabetics and persons at risk and for providing knowledge by a multidisciplinary team at the health center. The model could be used for evaluating the satisfaction of the attendees, comparing mean scores on their knowledge about nutrition and exercise before and after education and demonstration, and evaluating the satisfaction of the health officials with such a model. The study was carried out at seven health centers in Bangmunnak district, Phichit Province. The target population included persons 40 years old and older who had a fasting plasma glucose level higher than 110 mg/dl. The sample group was tested for knowledge about nutrition and exercise (pre-test). Then education and a demonstration was given by a doctor, nutritionist and physiotherapist. Post-testing was done, and the satisfaction of the sample group and health officials was evaluated. The results of the study showed that 77 persons were included in this study: 29 cases were diagnosed as diabetics, and 48 cases were in the impaired fasting glucose group. Most of the cases studied were in the age group 41-50 years and 51-60 years. The ratio of females to males was 3.8:1. Average body weight was 63.56 kg, average height was 154.98 cm; the average was 28.74 kg/m2 and 37 cases (48.05%) had a BMI of 25 kg/m2 . The sample group was satisfied with the education and demonstration. Overall satisfaction was 100 percent and most of the studied group was satisfied with every step. The cost of travel was reduced by 7.5 times compared with travel to the hospital. The mean score of the pre-test for knowledge about nutrition was 7.74/10. After education, the mean score increased to 8.94. The mean score of the pre-test for knowledge about exercise was 7.34/10. After education, it increased to 8.44. A significant difference (tested by paired t-test) in knowledge about nutrition and exercise of the sample group before and after the education program (p < 0.05) was observed. The result regarding the satisfaction of the health officials showed that all the health officials were satisfied with the model (100%). The results of the study showed that screening, coupled with education about nutrition and exercise by a multidisciplinary team, can make the attendees more comfortable, economically safe, satisfied with less crowding and able to achieve significantly higher scores on knowledge about nutrition and exercise. The officials concerned were satisfied about the education and demonstration aspects.en_US
dc.subject.keywordผู้ป่วยเบาหวานen_US
dc.subject.keywordกลุ่มเสี่ยงเบาหวานen_US
dc.subject.keywordบริการคัดกรองen_US
dc.subject.keywordทีมสหวิชาชีพen_US
dc.subject.keywordDiabetic Screeningen_US
dc.subject.keywordMultidisplinary Teamen_US
dc.subject.keywordPhichit Provinceen_US
.custom.citationจิระพันธุ สุขขี and Jirapant Sukkee. "บริการคัดกรองผู้ป่วยเบาหวานและกลุ่มโรคเบาหวานโดยทีมสหวิชาชีพที่สถานีอนามัย อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร." 2550. <a href="http://hdl.handle.net/11228/368">http://hdl.handle.net/11228/368</a>.
.custom.total_download949
.custom.downloaded_today0
.custom.downloaded_this_month11
.custom.downloaded_this_year114
.custom.downloaded_fiscal_year19

Fulltext
Icon
Name: hsri-journal-v1n2 ...
Size: 284.0Kb
Format: PDF
 

This item appears in the following Collection(s)

  • Articles [1352]
    บทความวิชาการ

Show simple item record