dc.contributor.author | โครงการพัฒนาสารสนเทศด้านยาของผู้ป่วยนอกรายบุคคลในระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า | en_US |
dc.date.accessioned | 2013-02-15T04:09:42Z | en_US |
dc.date.accessioned | 2557-04-17T00:29:29Z | |
dc.date.available | 2013-02-15T04:09:42Z | en_US |
dc.date.available | 2557-04-17T00:29:29Z | |
dc.date.issued | 2556 | en_US |
dc.identifier.other | hs2032 | en_US |
dc.identifier.uri | http://hdl.handle.net/11228/3763 | en_US |
dc.description.abstract | วัตถุประสงค์
1. เพื่อพัฒนาขีดความสามารถของเภสัชกรผู้ปฏิบัติงานในระบบยาของโรงพยาบาลในการวิเคราะห์ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ OP 18 แฟ้ม เพื่อใช้ในการประเมินการเข้าถึงยาภายใต้ระบบประกันสุขภาพ และคุณภาพการสั่งใช้ยา
2. เพื่อพัฒนารูปแบบวิธีการอบรม ที่ทำให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง
ผลสรุปและข้อค้นพบที่สำคัญ (Key message)
1. ในปัจจุบันยังไม่มีการนำฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์การให้บริการของโรงพยาบาลมาวิเคราะห์ประมวลผล เภสัชกรยังไม่คุ้นเคยเกี่ยวกับตัวชี้วัดเพื่อประเมินการเข้าถึงยาและคุณภาพการสั่งใช้ยา
2. โครงการนี้อบรมการวิเคราะห์ข้อมูลการสั่งใช้ยา 7 ประเด็นที่สำคัญได้แก่ (1) การสั่งใช้ยาบัญชี ง และบัญชี จ(2) (2) การสั่งใช้ยาจิตเวช (3) การสั่งใช้ยานอกบัญชียาหลักแห่งชาติ (4) การสั่งใช้ยาปฏิชีวนะอย่างสมเหตุสมผล (5) การสั่งใช้ยากลุ่ม benzodiazepine (6) การสั่งใช้ยา inhaled corticosteroid ในผู้ป่วย asthma และ (7) การสั่งใช้ยากลุ่ม ACEIs หรือ ARBs และ Statins ในผู้ป่วยเบาหวาน ผลการวิเคราะห์พบความแตกต่างกันระหว่างโรงพยาบาลค่อนข้างมาก โรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการทั้งหมด 134 แห่ง จำนวน 195 คน สามารถนำเข้าข้อมูลปีงบประมาณ 2554 เพื่อการวิเคราะห์ได้ 120 แห่ง (ร้อยละ 90) และสามารถแสดงผลการวิเคราะห์ข้อมูลได้ 88 แห่ง (ร้อยละ 66) เภสัชกรที่เข้ารับการอบรมสามารถทำการวิเคราะห์ด้วยตนเองได้โดยอาศัยชุดคำสั่งที่จัดเตรียมไว้ และสามารถนำผลการวิเคราะห์ไปพัฒนาคุณภาพการสั่งใช้ยาในโรงพยาบาลของตนได้ ทั้งนี้สามารถนำแนวคิดการวิเคราะห์ และชุดคำสั่งไปปรับประยุกต์ใช้กับการวิเคราะห์ตัวชี้วัดอื่นได้ ผลการติดตามพบว่า 33% ของโรงพยาบาลที่เข้ารับการอบรมสามารถวิเคราะห์ข้อมูลของ 2 ปีงบประมาณ (2553-2554) ได้ด้วยตนเอง ข้อจำกัดของโครงการนี้ คือยังไม่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลที่ต้องอาศัยราคายาได้ เนื่องจากฐานข้อมูล OP 18 แฟ้มของโรงพยาบาลต่างๆ ขาดข้อมูลราคายาที่ถูกต้อง และยังมีข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์
3. การอบรมใช้คำสั่งการวิเคราะห์ข้อมูลที่เขียนด้วย SQL เนื่องจากเป็นภาษาที่เข้าใจง่าย โครงสร้างคำสั่งไม่ซับซ้อน และเป็นภาษาที่สนับสนุนต่อการประมวลผลฐานข้อมูลบริการสุขภาพของโรงพยาบาลในประเทศไทยในปัจจุบัน การประชุมครั้งที่ 1 ทดสอบว่าโปรแกรม SQL เข้าใจง่าย สร้างทีมวิทยากร ตัวแทนที่มีความเข้าใจดีจำนวน 9 คนได้ร่วมกันจัดทำคู่มือพัฒนาชุดคำสั่ง SQL ใช้เวลาจัดทำ 2 สัปดาห์ การประชุมครั้งที่ 2 เน้นการฝึกการถ่ายทอดและทดสอบการทำงานทีมวิทยากร การประชุมครั้งที่ 3-5 เน้นการนำฐานข้อมูลของโรงพยาบาลตนเองมาวิเคราะห์ และการสร้างเครือข่าย รวมทั้งมีการติดตามผลการวิเคราะห์ข้อมูลเปรียบเทียบของ 2 ปีงบประมาณ (2553 และ 2554) การประชุมครั้งที่ 6 เป็นการทดสอบการขยายผลโดยทีมวิทยากรไม่มีผู้เชี่ยวชาญหลักช่วยในการฝึกอบรม
4. ควรนำข้อมูลสารสนเทศมาใช้ประโยชน์ให้มากขึ้นในด้าน 1.) การประเมินตัวชี้วัดคุณภาพการใช้ยา และการเงินการคลัง การเข้าถึงยาจำเป็น ปัจจัยที่มีผลต่อค่าใช้จ่ายด้านยา การควบคุมค่าใช้จ่ายด้านยาที่มีค่าใช้จ่ายสูง 2.) การพัฒนาระบบงานบริการเภสัชกรรม ได้แก่ โปรแกรมพัฒนางาน ADR center, Medication reconciliation การค้นหาผู้ป่วยเป้าหมาย เช่น การเข้ารับบริการบ่อยครั้งของ IP, OP visit, การมาผิดนัด การติดตามการใช้ยาที่ควรเฝ้าระวัง ทั้งนี้เสนอให้ทีมนักวิจัย ดำเนินการโดยให้กลุ่มสารสนเทศของสมาคมเภสัชกรรมโรงพยาบาลมีส่วนร่วมในการพัฒนาต่อไป
5. ปัญหาที่พบในการนำเข้าข้อมูล พบว่าแฟ้ม PERSON.txt เป็นแฟ้มสะสม หากไม่ตรวจสอบว่ามีข้อมูลเดิมอยู่แล้วจะทำให้เกิดความซ้ำซ้อนได้ ส่วนแฟ้ม DRUG.txt โดยเฉพาะฟิลด์ DNAME ซึ่งเป็นชื่อยาภาษาไทย มีการกำหนดรหัสภาษาที่แตกต่างกัน ส่วนของการวิเคราะห์ข้อมูลพบปัญหาว่าแฟ้ม SERVICE.txt มีรหัสสิทธิการรักษาไม่เป็นไปตามที่ สปสช. กำหนด แฟ้ม DRUG.txt พบปัญหาการบันทึกรหัสยามาตรฐาน แฟ้ม PERSON.txt พบการบันทึกข้อมูลวันเกิดคลาดเคลื่อน แฟ้ม DIAG.txt พบว่า รพ.แต่ละแห่งบันทึกรหัสการวินิจฉัยโรคแตกต่างกัน มาตรฐานข้อมูลที่แตกต่างกันของแต่ละหน่วยบริการ เป็นสิ่งที่จะส่งผลให้การวิเคราะห์ข้อมูลในภาพรวมระดับประเทศเกิดความคลาดเคลื่อนได้สูง | en_US |
dc.description.sponsorship | สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข | en_US |
dc.format.extent | 1385299 bytes | en_US |
dc.format.mimetype | application/zip | en_US |
dc.language.iso | th | en_US |
dc.publisher | สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข | en_US |
dc.rights | สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข | en_US |
dc.subject | ยา | en_US |
dc.subject | กำลังคนด้านสุขภาพ (Health Workforce) | th_TH |
dc.subject | ระบบสารสนเทศด้านสุขภาพ (Health Information Systems) | th_TH |
dc.title | การพัฒนาศักยภาพของเภสัชกรในการวิเคราะห์ข้อมูลการสั่งใช้ยาจากฐานข้อมูล OP 18 แฟ้มมาตรฐาน | en_US |
dc.type | Technical Report | en_US |
dc.identifier.callno | QV55 ก125 2556 | en_US |
dc.identifier.contactno | 53-066 | en_US |
dc.subject.keyword | การเข้าถึงยา | en_US |
dc.subject.keyword | การสั่งใช้ยา | en_US |
.custom.citation | โครงการพัฒนาสารสนเทศด้านยาของผู้ป่วยนอกรายบุคคลในระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า. "การพัฒนาศักยภาพของเภสัชกรในการวิเคราะห์ข้อมูลการสั่งใช้ยาจากฐานข้อมูล OP 18 แฟ้มมาตรฐาน." 2556. <a href="http://hdl.handle.net/11228/3763">http://hdl.handle.net/11228/3763</a>. | |
.custom.total_download | 234 | |
.custom.downloaded_today | 0 | |
.custom.downloaded_this_month | 1 | |
.custom.downloaded_this_year | 4 | |
.custom.downloaded_fiscal_year | 2 | |