• TH
    • EN
    • สมัครสมาชิก
    • เข้าสู่ระบบ
    • ลืมรหัสผ่าน
    • ช่วยเหลือ
    • ติดต่อเรา
  • สมัครสมาชิก
  • เข้าสู่ระบบ
  • ลืมรหัสผ่าน
  • ช่วยเหลือ
  • ติดต่อเรา
  • TH 
    • TH
    • EN
ดูรายการ 
  •   หน้าแรก
  • สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) - Health Systems Research Institute (HSRI)
  • Research Reports
  • ดูรายการ
  •   หน้าแรก
  • สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) - Health Systems Research Institute (HSRI)
  • Research Reports
  • ดูรายการ
JavaScript is disabled for your browser. Some features of this site may not work without it.

การประเมินกระบวนการนำมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติไปสู่การปฏิบัติระยะที่ 2 : กรณีศึกษา 6 มติ

เพ็ญแข ลาภยิ่ง; เสกสรรค์ พวกอินแสง; กันยา บุญธรรม;
วันที่: 2556-09
บทคัดย่อ
การศึกษาเชิงวิเคราะห์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากระบวนการนำมติสมัชชาไปสู่การปฏิบัติ และพัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบายต่อกระบวนการสมัชชา ด้วยการทบทวนเอกสาร ศึกษาเชิงปริมาณและคุณภาพ ประชากรที่ศึกษาคือ คณะกรรมการขับเคลื่อนและผู้เกี่ยวข้องกับมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ 6 มติ ได้แก่ การจัดการขยะอันตรายจากชุมชนอย่างมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน การพัฒนาการแพทย์แผนไทยการแพทย์พื้นบ้านและการแพทย์ทางเลือก การจัดการปัญหาภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วน ความเป็นธรรมในการเข้าถึงบริการสุขภาพของคนพิการ นโยบายสนับสนุนพื้นที่จัดการตนเองเพื่อสังคมสุขภาวะ และการแก้ปัญหาวัยรุ่นไทยกับการตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อม ผู้เกี่ยวข้องในมติสมัชชาทั้ง 6 เห็นพ้องว่า กระบวนการสมัชชาเป็นกระบวนการเรียนรู้ของแต่ละภาคส่วนและภาคีเครือข่าย ช่วยในการพัฒนาเครือข่ายสมาชิกด้วยยุทธศาสตร์สามเหลี่ยมเขยื้อนภูเขาและยังเป็นการเปิดพื้นที่แก่เครือข่าย และสปิริตสมัชชาของเครือข่ายส่วนหนึ่งเกิดจากการสื่อสารให้ตระหนักรู้และร่วมคิดเพื่อการขับเคลื่อนร่วมกันแบบหุ้นส่วน ในกระบวนการจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบาย เน้นแบบแผนมากจนกลายเป็นพิธีการซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ของสมัชชาอยู่ที่การนำมติไปปฏิบัติให้เกิดผล ไม่ใช่พิธีการ การมีมติสมัชชาจำนวนมากเป็นภาระของ สช. ในการ 1) จัดตั้งกลไกระดับชาติ (เช่น ขาดผู้ที่จะมาเป็นคณะกรรมการ (บางคนเป็นกรรมการหลายชุดทำให้ไม่มีเวลา/ไม่มีการติดตาม) 2) จัดกระบวนการและสนับสนุนทรัพยากรในการขับเคลื่อนและติดตาม ในการ บางมติ สช. ต้องขับเคลื่อนเอง ในบางมติพบว่า แนวคิดที่ไม่สอดคล้องกันเป็นอุปสรรคในการสื่อสารทำความเข้าใจระหว่างภาคส่วนและขับเคลื่อน แม้จะร่วมวงทำข้อเสนอมาด้วยกัน โดยเฉพาะในภาคราชการที่มีความเป็นใหญ่กว่าจากฐานงบประมาณและกำลังคน นอกจากนี้ การรวมหลายเรื่องเข้าไว้ในมติเดียวกัน ทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมได้เมื่อน้ำหนักของการขับเคลื่อนโน้มเอียงไปในบางเรื่อง หากตัดเรื่องแนวคิดแล้ว ปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนคือ ความเป็นตัวจริงของผู้เสนอประเด็นซึ่งคือศักยภาพและคุณภาพของแกนขับเคลื่อนและเครือข่าย กลไกหรือระบบสนับสนุน และการสื่อสาร สำหรับภาครัฐมีลักษณะ เงื่อนไข และข้อจำกัดจำนวนหนึ่ง ซึ่งอาจรวมเรียกว่า บริบทระบบราชการ ทำให้ไม่เหมาะที่จะเป็นแกนขับเคลื่อน ในการศึกษานี้พบว่า องค์กร/สถาบันวิชาการเหมาะที่จะมีบทบาทอำนวยการขับเคลื่อนบนฐานวิชาการและเครือข่ายต่างๆ ขับเคลื่อนร่วมกันอย่างเสมอภาคซึ่งภาคราชการให้ความสำคัญมากกับการแบ่งและการมีบทบาทในการขับเคลื่อน เพื่อไม่ให้เกิดความคิดว่า มาทำงานให้หน่วยงานอื่น อย่างไรก็ตามการปะทะสังสรรค์ระหว่างกันทั้งขาขึ้นและขาเคลื่อนช่วยให้เกิดการพัฒนาซึ่งกันและกันในด้านการฟัง การคิดวิเคราะห์ การใช้เหตุผล และการต่อรอง หน่วยงานราชการที่ถูกระบุในข้อเสนอมติให้นำไปปฏิบัติมักมีปัญหา 1) ความเป็นเจ้าของร่วมเพราะขาดส่วนร่วมในขาขึ้น 2) ขึ้นกับนโยบายผู้บังคับบัญชา การอ้างอิงมติเพื่อนำมาปฏิบัติ เป็นไปได้ยากหากไม่ใช่ตัวชี้วัด 3) มีการเปลี่ยนสถานที่ทำงาน เปลี่ยนตำแหน่งงาน รวมทั้งมีการเปลี่ยนผู้บังคับบัญชา แต่จุดแข็งคือ มีบทบาทภารกิจเฉพาะและมีงบประมาณของตัวเอง เมื่อเทียบกับภาครัฐ องค์กรพัฒนาเอกชนทำงานด้วยความยากลำบากกว่า เช่น มีปัญหาด้านงบประมาณที่ต้องเลี้ยงทั้งตัวเองครอบครัวและการดำเนินงาน และกลุ่มที่เคลื่อนไหวในพื้นที่มักมีปัญหาด้านวิชาการร่วมด้วย แต่กลุ่มคนเหล่านี้มีความเป็นเจ้าของประเด็นสูงและมุ่งมั่นในการขับเคลื่อน ในการศึกษานี้ 5 ใน 6 มติ พบว่า สสส. เป็นร่มใหญ่ของการสนับสนุนการขับเคลื่อนทุกภาคส่วนทุกระดับ และเมื่อเกี่ยวข้องกับระบบประกันสุขภาพ สปสช. ก็ไม่รีรอที่จะเข้ามามีบทบาทในการสนับสนุนการพัฒนาด้วยทัศนะที่เปิดกว้าง น่าสังเกตว่า องค์กรหลักเหล่านี้มักมีประเด็นนโยบายสอดคล้องกันกับสมัชชาต่างๆ และมีความยืดหยุ่นในการสนับสนุน
Copyright ผลงานวิชาการเหล่านี้เป็นลิขสิทธิ์ของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข หากมีการนำไปใช้อ้างอิง โปรดอ้างถึงสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข ในฐานะเจ้าของลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติสงวนลิขสิทธิ์สำหรับการนำงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์
ฉบับเต็ม
Thumbnail
ชื่อ: hs2075.pdf
ขนาด: 2.427Mb
รูปแบบ: PDF
ดาวน์โหลด

คู่มือการใช้งาน
(* หากไม่สามารถดาวน์โหลดได้)

จำนวนดาวน์โหลด:
วันนี้: 0
เดือนนี้: 0
ปีงบประมาณนี้: 4
ปีพุทธศักราชนี้: 3
รวมทั้งหมด: 167
 

 
 


 
 
แสดงรายการชิ้นงานแบบเต็ม
คอลเล็คชั่น
  • Research Reports [2476]

    งานวิจัย


DSpace software copyright © 2002-2016  DuraSpace
นโยบายความเป็นส่วนตัว | ติดต่อเรา | ส่งความคิดเห็น
Theme by 
Atmire NV
 

 

เลือกตามประเภท (Browse)

ทั้งหมดในคลังข้อมูลDashboardหน่วยงานและประเภทผลงานปีพิมพ์ผู้แต่งชื่อเรื่องคำสำคัญ (หัวเรื่อง)ประเภททรัพยากรนี้ปีพิมพ์ผู้แต่งชื่อเรื่องคำสำคัญ (หัวเรื่อง)หมวดหมู่การบริการสุขภาพ (Health Service Delivery) [620]กำลังคนด้านสุขภาพ (Health Workforce) [99]ระบบสารสนเทศด้านสุขภาพ (Health Information Systems) [286]ผลิตภัณฑ์ วัคซีน และเทคโนโลยีทางการแพทย์ (Medical Products, Vaccines and Technologies) [126]ระบบการเงินการคลังด้านสุขภาพ (Health Systems Financing) [159]ภาวะผู้นำและการอภิบาล (Leadership and Governance) [1285]ปัจจัยสังคมกำหนดสุขภาพ (Social Determinants of Health: SDH) [229]วิจัยระบบสุขภาพ (Health System Research) [28]ระบบวิจัยสุขภาพ (Health Research System) [20]

DSpace software copyright © 2002-2016  DuraSpace
นโยบายความเป็นส่วนตัว | ติดต่อเรา | ส่งความคิดเห็น
Theme by 
Atmire NV