บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบการให้บริการสุขภาพปฐมภูมิในพื้นที่ตำบลศรีเตี้ยและเหล่ายาวซึ่งเป็นพื้นที่ติดต่อกัน และเป็นพื้นที่รอยต่อกับจังหวัดเชียงใหม่ที่ได้ดำเนินการในปีงบประมาณ 2546-2549 แบ่งงานเป็น 4 ระยะ คือ ระยะแรก ทำการศึกษาข้อมูล เตรียมการดำเนินการและประเมินผลลัพธ์ เนื่องจากในระยะแรกของการวิจัยประชากรบางส่วนในเขตสถานีอนามัยสันปูเลย ขอใช้บริการด้านสุขภาพนอกเขตรอยต่อทำให้เกิดปัญหาการบริหารงบประมาณตามจ่าย ทีมสุขภาพอำเภอบ้านโฮ่งจึงประชุมเพื่อศึกษาและเก็บรวบรวมข้อมูลสถิติการมารับบริการ จำนวนผู้ป่วยเรื้อรัง การเข้าถึงบริการ และความสามารถในการค้นหาผู้ป่วยรายใหม่ตลอดจนประเมินศักยภาพตนเอง และเตรียมการพัฒนารูปแบบการบริการในระยะที่ 2 คือ จัดให้มีพยาบาลเวชปฏิบัติครอบครัวปฏิบัติงานในสถานีอนามัยแบบเต็มเวลาผสมผสานกับการบริการสุขภาพเชิงรุกในช่วงต้นและพัฒนาให้สถานีอนามัยบ้านเหล่ายาวเป็นศูนย์แพทย์ชุมชนมีแพทย์รับผิดชอบตรวจรักษา ในช่วงต่อมา (ระยะที่ 3) และระยะที่ 4 คือการประเมินผลลัพธ์ของการดำเนินการ ผลการวิจัยพบว่าประชากรในพื้นที่ 2 ตำบลเข้าถึงบริการด้านสุขภาพมากขึ้น โดยสถานีอนามัยบ้านเหล่ายาวเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.94 ใน พ.ศ. 2547 เนื่องจากมีพยาบาลเวชปฏิบัติครอบครัวไปปฏิบัติงานในพื้นที่ และร้อยละ 24.60 เมื่อพัฒนาให้เป็นศูนย์แพทย์ชุมชนตำบลเหล่ายาวใน พ.ศ. 2549 สามารถลดปัญหางบประมาณตามจ่ายตาม DRGs ของประชากรเขตสถานีอนามัยสันปูเลย เพิ่มการเข้าถึงบริการร้อยละ 20.69 ใน พ.ศ. 2547 และร้อยละ 36.13 ใน พ.ศ. 2549 คัดกรองผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงมากขึ้น 3.32 เท่า ผู้ป่วยโรคเบาหวานเพิ่มขึ้น 5.64 เท่าจาก พ.ศ. 2546 การเข้าถึงบริการของโรคที่สามารถป้องกันได้ลดลง คือ โรคทางหายใจ และค้นหาโรคที่สอดคล้องกับปัญหาในชุมชนได้มากขึ้น คือ อาการปวดเมื่อยในระบบกล้ามเนื้อและโครงร่าง การจัดตั้งศูนย์แพทย์ชุมชน จึงเป็นการเชื่อมโยงระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิในพื้นที่ เน้นศักยภาพบุคลากรเชิงรุกระหว่างชุมชน และอาสาสมัครสาธารณสุข ตามนโยบายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ที่เน้น "ซ่อม" ควบคู่กับ "สร้าง" สุขภาพภายใต้การบริหารงบประมาณรายหัวของอำเภอบ้านโฮ่ง
บทคัดย่อ
The aim of this development research study was to develop the patterns of the primary
care service in Sritia and Laoyaw tambons of Baan Hong District in Lamphun Province,
where they conjoin with Chiang Mai Province. The study was undertaken in the
period 2003 - 2006. The study was conducted in a number of phases: first, correcting the data, then planning, followed by processing, and finally evaluating the outcome. In the
first period of this study, the population of the Sunpulauy Primary Care Unit (PCU) required
extraordinary health-care service out that posed a budgetary problem under the
Universal Coverage system in the Banhong PCU. Subsequently a meeting was held to
study and correct the statistical data, the health-care services received, the number of
patients with chronic illness, the ways to establish health-care services, the ability to recruit
new patients, evaluate the competency of the health-care team, and prepare to develop
the pattern of health-care services. In second phase, arrangements were made for
family nurses to work in the PCU full time and be associated with the community based
health-care services. In the third phase the Laoyaw PCU was developed to become the
center for community medical-care services with the provision of a doctor for providing
medical care and evaluating the outcome of processing.
In the fourth phase, the people in Sritia and Laoyaw tambons enjoyed a greater
range of health-care services. Patients in the Laoyaw PCU increased from 11.94 percent
of the population in 2004 to 24.60 percent in 2006, because family nurses were working in
this PCU and developed it into a community medical-care center. The Laoyaw PCU decreased
the UC budget following the DRGs of the Sunpulauy PCU. The population receiving
health-care services increased from 20.69 percent in 2004 to 36.13 percent in 2006.
The screening of patients with hypertension increased 3.32 more than three fold, and that
of patients with diabetes mellitus increased more than 5.6 times from 2003. The number
of patients with respiratory diseases decreased; increased screening was carried out for
diseases associated with community problems, that is, myalgia of the muscle and skeleton
systems. The community medical hub was connected to the primary health-care
service system in this area. The study found that it is possible to develop persons in the
community and public health volunteers following the system policy that stresses improving
health using the Banhong UC budget.