บทคัดย่อ
วิกฤตความรุนแรงของสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่งผลกระทบต่อสุขภาวะอย่างรุนแรงทั้งทายกาย จิต/สังคม และจิตวิญญาณ การรวบรวมข้อมูลอย่างต่อเนื่องเริ่มเดือนมีนาคม 2547 ถึงมีนาคม 2550 โดยใช้การสอบถามและการสัมภาษณ์ รวมถึงการสนทนากลุ่มและจัดเวทีระดมสมอง ใช้วิธีการประชุมกลุ่มเพื่อวิเคราะห์ข้อมูล พบว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม 2547 จนถึงเดือนสิงหาคม 2549 มีการก่อเหตุความรุนแรงรวมทั้งสิ้น 5,460 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตรวม 1,730 คน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2,513 คน ในจำนวนนี้เป็นบุคลากรสาธารณสุข 22 คน และอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) 31 คน และแนวโน้มของเหตุการณ์จะมีความรุนแรงมากขึ้น โรงพยาบาลทุกแห่งในพื้นที่ต้องปรับตัวตามสถานการณ์ บุคลากรต้องระวังตัวมากขึ้นโดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น การงดสวมเครื่องแบบ ปรับเวลาทำงาน ลดงานบริการเชิงรุกโดยเฉพาะงานสร้างเสริมสุขภาพและงานป้องกันโรค ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบในระยะยาว คือ จะมีการซ่อมสุขภาพมากกว่าการสร้างสุขภาพ นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มระบบรักษาความปลอดภัย การสำรองอาหาร บางพื้นที่จำกัด อสม. มาปฏิบัติงานคู่กับเจ้าหน้าที่อนามัยเพื่อความอุ่นใจ มีการดูแลขวัญกำลังใจซึ่งกันและกัน สิ่งยึดโยงให้บุคลากรยังคงอยู่ปฏิบัติงานต่อไปได้คือ ศรัทธาจากชุมชนและการเป็นคนในพื้นที่
ปริมาณผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน ไม่ได้เปลี่ยนแปลง แต่ปริมาณผู้ป่วยที่มาใช้บริการที่สถานีอนามัยลดลง มีการคลอดที่โรงพยาบาลเพิ่มขึ้น และผู้ป่วยโรคเรื้อรังรับเข้าเป็นผู้ป่วยในเพิ่มขึ้น ผู้ป่วยภาวะแปรปรวนทางจิตและพฤติกรรมเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ปัญหาการขาดแคลนบุคลากร พบว่าการสูญเสียและทดแทนใกล้เคียงกัน และยังคงขาดแคลนแพทย์เฉพาะบางสาขา โดยเฉพาะพยาบาลวิชาชีพกำลังจะเป็นปัญหามากขึ้นหากเหตุการณ์มีความรุนแรงมากขึ้น
มาตรการแก้ปัญหาระยะสั้น คือ การแก้ปัญหาความปลอดภัยในชีวิต การสร้างระบบสนับสนุนด้านการให้คำปรึกษา การส่งต่อ จัดบุคลากรเสริม และการรักษาบุคลากรให้คงอยู่ ส่วนมาตรการระยะยาวคือการเร่งสร้างสันติภาพในพื้นที่ สร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดบริการสุขภาพ สร้างระบบการดูแลตนเองของชุมชน สร้างหลักสูตรการแพทย์ในวิถีมุสลิม การเพิ่มประสิทธิภาพในระบบบริการสุขภาพ ทั้งนี้กลไกการทำงานเพื่อแก้ปัญหาควรจะต้องมีโครงสร้างทีมงานเฉพาะ เกาะติดสถานการณ์สร้างช่องทางการเชื่อมต่อ การพัฒนาระบบร่วมคิด ระบบข้อมูลข่าวสาร การติดตามแก้ปัญหาเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง และต้องศึกษาวิจัยและพัฒนาระบบที่สอดคล้องกับสถานการณ์ความรุนแรง
บทคัดย่อ
The violence in the Southern provinces in Thailand took a toll on physical, psycho-social and spiritual health. Data collection began from March 2004
to March 2007 using questionnaires, face to face interview including group seminars and brainstorming sessions. It was found that the frequency of chaotic events
occured 5,460 times during January 2003 to August 2006. About 1,730 have been
killed and 2,513 injured. These victims included 22 health workers and 31 health
volunteers.
In the prime of the violence, every single hospital has prepared itself to be
ready to cope with those crises. Health workers, for example, suddenly changed
their behaviors substantially such as adjusting their work schedules, not
wearing uniform, taking more precautions, decreasing or avoiding their proactive roles in field works, particularly health promotion and health prevention.
These were remarkable changes in health care roles which would have long term
serious effects on the communitiy health. In addition, security in hospitals has
been tightened while stocks of food became critically necessary. Some local health
offices rearranged their teams by having village health volunteers working closely
with their health officers. These actions could boost their morale and ensure
their safety. Community faith in them and being natives inspired health workers
to remain in their posts.
It was interesting that the number of cases of out-patient and in-patient
departments had not changed much but the number of patients visiting local
health offices clearly decreased. Nevertheless, the number of patients in labor
departments increased and the chronic disease cases increased as well. Besides,
the number of cases with psychosis or having mental problems sharply increased.
Eventhough, the turn over and replacement of health workers became even but
the lack of medical specialists in some areas remained. Number of registered
nurses would become the major concern in the near future if the violence is not
restrained.
The crisis dictates requirements on short-term measures to focus on security, life protection, creating the supporting systems about counseling, referring,
transferring and maintaining the systems. In the long run, measures include
peace restoration, then, create health participatory system of people in communities, self-care system and enhance effectiveness of health system. It should be
concerned about the opportunity to build Muslim medical curriculum and
agenda. Having a specific team work to monitor the situation closely, connecting and communicating with the government and developing the participatory
management of data system and solving the problem may gradually decrease
the violence. In addition, research and development on the consequences of the
health system of the restive southern provinces are required in order to cope
with the drastic change.