• TH
    • EN
    • สมัครสมาชิก
    • เข้าสู่ระบบ
    • ลืมรหัสผ่าน
    • ช่วยเหลือ
    • ติดต่อเรา
  • สมัครสมาชิก
  • เข้าสู่ระบบ
  • ลืมรหัสผ่าน
  • ช่วยเหลือ
  • ติดต่อเรา
  • TH 
    • TH
    • EN
ดูรายการ 
  •   หน้าแรก
  • สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) - Health Systems Research Institute (HSRI)
  • Research Reports
  • ดูรายการ
  •   หน้าแรก
  • สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) - Health Systems Research Institute (HSRI)
  • Research Reports
  • ดูรายการ
JavaScript is disabled for your browser. Some features of this site may not work without it.

ผลทันทีของการนวดฝ่าเท้าและการออกกำลังกายเท้าที่มีต่อการไหลเวียนเลือดของไตและความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจในผู้สูงอายุ

กู้เกียรติ ทุดปอ; ธนารัตน์ ศรีผ่องงาม; Thanarat Sripongngam; จตุรัตน์ กันต์พิทยา; Jaturat Kanpittaya; วิทวัฒน์ ทะกอง; Wittawat Takong; Kukiat Tudpor;
วันที่: 2562-02
บทคัดย่อ
ในปัจจุบันพบว่าจำนวนผู้ป่วยด้วยโรคไตเรื้อรังเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ปัญหาหลักที่พบในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง คือ การลดลงของการไหลเวียนเลือดไปที่ไต ทำให้ไตได้รับเลือดไปเลี้ยงไม่เพียงพอ ส่งผลให้เกิดการคั่งของของเสียในร่างกายเนื่องจากสมรรถนะการทำงานของไตในการขับของเสียออกจากร่างกายได้น้อยลง นำไปสู่การเสื่อมของไตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในผู้สูงอายุก็พบว่ามีการไหลเวียนเลือดไปที่ไตลดลง ดังนั้น วัตถุประสงค์ของการศึกษาครั้งนี้ คือ เพื่อเปรียบเทียบผลของการไหลเวียนเลือดของไตและความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจก่อนการนอนพัก หลังการนอนพักและหลังการทดลองในผู้สูงอายุ อาสาสมัครเป็นผู้สูงอายุที่มีสุขภาพดีจำนวน 41 คน ถูกแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือกลุ่มที่ได้รับการนวดฝ่าเท้า (14 คน) กลุ่มที่ได้รับการออกกำลังกายเท้า (14 คน) และกลุ่มควบคุม (13 คน) อาสาสมัครทุกคนนอนพักเป็นเวลา 15 นาที หลังจากนั้นได้รับการนวดฝ่าเท้า หรือออกกำลังกายเท้า หรือนอนพักเป็นเวลา 15 นาที ก่อนการนอนพัก หลังการนอนพัก และหลังการทดลอง อาสาสมัครได้รับการวัดค่าการไหลเวียนเลือดของไตและความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจ จำนวน 3 ครั้ง และได้รับการตรวจปัสสาวะ 24 ชั่วโมง ก่อนและหลังการทดลอง ผลการศึกษาพบว่าค่าการไหลเวียนเลือดของไตและค่าการตรวจปัสสาวะ 24 ชั่วโมง ไม่แตกต่างจากก่อนการทดลองและไม่แตกต่างระหว่างกลุ่ม ในกลุ่มที่ได้รับการนวดฝ่าเท้าพบว่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของจังหวะการเต้นของหัวใจในช่วงปกติต่อเนื่อง (SDNN) ค่ารากที่สองของค่าความแตกต่างเฉลี่ยกำลังสองของจังหวะการเต้นของหัวใจในช่วงปกติต่อเนื่อง (RMSSD) และค่าย่านความถี่ต่ำ (LF) เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.05) กลุ่มที่ได้รับการออกกำลังกายเท้าพบว่าค่า SDNN และค่า RMSSD เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.05) และในกลุ่มควบคุมพบว่ามีเพียงค่า RMSSD ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.05) อย่างไรก็ตามพบว่าไม่มีความแตกต่างเมื่อเปรียบเทียบระหว่างกลุ่ม สรุปผลการศึกษาว่าการนวดฝ่าเท้า การออกกำลังกายเท้า และการนอนพัก สามารถเพิ่มความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจโดยเพิ่มการทำงานของระบบประสาทพาราซิมพาเธติก แต่ไม่มีผลต่อการไหลเวียนเลือดของไต

บทคัดย่อ
Currently, the number of patients with chronic kidney disease is increasing. The main problem in chronic kidney disease patients is the reduction of blood flow to the kidneys, causes the insufficient blood supply to the kidneys. As a result, the accumulation of waste in the body due to the renal function excreted less waste from the body. It leads to a gradual decline in kidney function. In the elderly, it is found that blood flow to the kidneys decreased. The purpose of this study was to compare the effects of renal blood flow and heart rate variability before bed rest, after bed rest, and after the trial in the elderly. The 41 healthy elderly volunteers were divided into three groups: foot massage group (14 persons), foot exercise group (14 persons), and control group (13 persons). All of them were received bed rest for 15 minutes, then got a foot massage or foot exercise or bed rest for 15 minutes. Volunteers were measured for renal blood flow and heart rate variability for 3 times and 24-hours urine analysis was measured before and after the trial. The results found that renal blood flow and 24-hours urine analysis were not significantly different from the pre-treatment and no difference between groups. In massage group found that the standard deviation of the normal-to-normal intervals (SDNN), the square root of the mean squared differences of successive normal R-R intervals (RMSSD), and low frequency (LF) were significantly increased (p<.05). In foot exercise group found that SDNN and RMSSD were significantly increased (p<.05). And the control group found that only RMSSD was significantly increased (p<.05). However, there was no difference between groups comparison. Conclusion, the foot massage, the foot exercises, and bed rest could increase the heart rate variability by increasing the activity of the parasympathetic nervous system. But it does not affect the renal blood flow.
Copyright ผลงานวิชาการเหล่านี้เป็นลิขสิทธิ์ของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข หากมีการนำไปใช้อ้างอิง โปรดอ้างถึงสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข ในฐานะเจ้าของลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติสงวนลิขสิทธิ์สำหรับการนำงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์
ฉบับเต็ม
Thumbnail
ชื่อ: hs2475.pdf
ขนาด: 1.986Mb
รูปแบบ: PDF
ดาวน์โหลด

คู่มือการใช้งาน
(* หากไม่สามารถดาวน์โหลดได้)

จำนวนดาวน์โหลด:
วันนี้: 0
เดือนนี้: 0
ปีงบประมาณนี้: 4
ปีพุทธศักราชนี้: 1
รวมทั้งหมด: 112
 

 
 


 
 
แสดงรายการชิ้นงานแบบเต็ม
คอลเล็คชั่น
  • Research Reports [2478]

    งานวิจัย


DSpace software copyright © 2002-2016  DuraSpace
นโยบายความเป็นส่วนตัว | ติดต่อเรา | ส่งความคิดเห็น
Theme by 
Atmire NV
 

 

เลือกตามประเภท (Browse)

ทั้งหมดในคลังข้อมูลDashboardหน่วยงานและประเภทผลงานปีพิมพ์ผู้แต่งชื่อเรื่องคำสำคัญ (หัวเรื่อง)ประเภททรัพยากรนี้ปีพิมพ์ผู้แต่งชื่อเรื่องคำสำคัญ (หัวเรื่อง)หมวดหมู่การบริการสุขภาพ (Health Service Delivery) [620]กำลังคนด้านสุขภาพ (Health Workforce) [100]ระบบสารสนเทศด้านสุขภาพ (Health Information Systems) [286]ผลิตภัณฑ์ วัคซีน และเทคโนโลยีทางการแพทย์ (Medical Products, Vaccines and Technologies) [126]ระบบการเงินการคลังด้านสุขภาพ (Health Systems Financing) [159]ภาวะผู้นำและการอภิบาล (Leadership and Governance) [1288]ปัจจัยสังคมกำหนดสุขภาพ (Social Determinants of Health: SDH) [229]วิจัยระบบสุขภาพ (Health System Research) [28]ระบบวิจัยสุขภาพ (Health Research System) [21]

DSpace software copyright © 2002-2016  DuraSpace
นโยบายความเป็นส่วนตัว | ติดต่อเรา | ส่งความคิดเห็น
Theme by 
Atmire NV