• TH
    • EN
    • สมัครสมาชิก
    • เข้าสู่ระบบ
    • ลืมรหัสผ่าน
    • ช่วยเหลือ
    • ติดต่อเรา
  • สมัครสมาชิก
  • เข้าสู่ระบบ
  • ลืมรหัสผ่าน
  • ช่วยเหลือ
  • ติดต่อเรา
  • TH 
    • TH
    • EN
ดูรายการ 
  •   หน้าแรก
  • สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) - Health Systems Research Institute (HSRI)
  • Research Reports
  • ดูรายการ
  •   หน้าแรก
  • สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) - Health Systems Research Institute (HSRI)
  • Research Reports
  • ดูรายการ
JavaScript is disabled for your browser. Some features of this site may not work without it.

ยุติวัณโรคล้านนา โดยการมีส่วนร่วมของร้านขายยา และคลินิกเอกชนในการคัดกรองและส่งต่อผู้มีอาการวัณโรค

จินตนา งามวิทยาพงศ์-ยาไน; Jintana Ngamvithayapong-Yanai; ดิเรก สุดแดน; Derek Sutdan; คณัสนันท์ ศรีวรรณรมย์; Kanassanan Sriwanarom; ณัฐประคัลภ์ หอมนวล; Natprakan Homnual; ทรามวัย หลวงจินา; Sarmwai Luangjina; นภัชณันท์ บุญจู; Naphatchanan Boonju; เบญจวรรณ บุญส่ง; Benjawan Boonshong; บุญชัย ไชยาศิรินทร์โรจน์; Boonchai Chaiyasirinroje; ภัสสรา ซาลิซส์; Phassara Salis; ศราวุธ มณีวงค์; Sarawut Maneewong; สิริวิมล มณี; Siriwimon Manee; สุรีรัตน์ ท้าวถึง; Sureerut Thawthung; เอกชัย คนกลาง; Ekkachai Konklang;
วันที่: 2566-09
บทคัดย่อ
ความเป็นมาและวัตถุประสงค์ : จากผลการศึกษาในการดำเนินงานวิจัย เรื่อง การพัฒนารูปแบบความร่วมมือของหลายภาคส่วน เพื่อยุติวัณโรคในเขตเทศบาลเมืองและอำเภอเมือง (ปีที่ 1) ดำเนินการในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ในปี พ.ศ. 2562-2563 พบว่า ร้านขายยา/คลินิก ร่วมคัดกรอง/ส่งต่อผู้ป่วย ทำให้ตรวจพบวัณโรครายใหม่สูงถึงร้อยละ 25 (6/24) จึงนำมาสู่การขยายผล โครงการวิจัยปฏิบัติการนี้ ซึ่งดำเนินการใน 8 จังหวัดของเขตสุขภาพที่ 1 ในช่วงที่มีการระบาดหนักของโรคโควิด-19 นักวิจัยปฏิบัติการ (Operational Researcher, OR) เป็นข้าราชการของจังหวัดละ 1 คน มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนารูปแบบการให้ร้านขายยา/คลินิกคัดกรองและส่งต่อผู้ที่เสี่ยงต่อวัณโรคไปโรงพยาบาลเปรียบเทียบผลการดำเนินงานและศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการดำเนินงานของ 8 จังหวัด วิธีการ : พัฒนาหลักสูตรอบรมวัณโรคออนไลน์และเว็บแอปพลิเคชัน TB-Refer สำหรับร้านขายยาและคลินิกเอกชนใช้คัดกรองและส่งต่อผู้มีความเสี่ยงต่อวัณโรค จากนั้นเก็บข้อมูลนาน 9 เดือน ทำการวิเคราะห์ฐานข้อมูล TB-Refer และสัมภาษณ์เจาะลึกกับร้านขายยา/คลินิก ที่ส่งต่อและไม่ส่งต่อ, นักวิจัย OR, ผู้บริหารงานวัณโรคจังหวัด (Mr.TB), และบุคลากรโรงพยาบาลที่รับส่งต่อ ผลการศึกษา : อัตราการเข้าร่วมโครงการของร้านขายยา 8 จังหวัด เท่ากับร้อยละ 50.4 (143/284) จังหวัดที่เข้าร่วมต่ำสุด 12.7% สูงสุด 100% คลินิกเข้าร่วมโครงการเพียง 4.6% (11/240) ไม่มีคลินิกเข้าร่วม 2 จังหวัด ร้านขายยาเพียงร้อยละ 13.3 (19/143) คัดกรองและส่งต่อกลุ่มเสี่ยง จำนวน 37 ราย คลินิกมีเพียง 2 จาก 11 ร้านที่คัดกรองและส่งต่อ จำนวน 2 ราย รวมจำนวน 39 ราย (มีอาการ 38 เป็นผู้สัมผัสไม่มีอาการ 1) ไปตามการส่งต่อ จำนวน 19 ราย พบวัณโรคปอด จำนวน 1 ราย (ผล AFB 3+) มีร้านขายยา 57 ร้าน คลินิก 5 แห่ง ร่วมการอบรมออนไลน์ คะแนนความรู้เฉลี่ยเกี่ยวกับวัณโรคหลังอบรมของบุคลากรจากร้านขายยา เพิ่มขึ้นจาก 16 (IQR = 4) เป็น 23 (IQR = 2) (p < 0.001) บุคลากรจากคลินิก เพิ่มขึ้นจาก 17.8 (SD 4.5) เป็น 21.8 (SD 2.3) (p = 0.034) ร้านขายยา/คลินิกที่เข้าอบรมออนไลน์คัดกรองและส่งต่อมากกว่าร้านที่ไม่อบรม (22.6% vs 7.6%, p = 0.008) มีเพียง 1 ใน 8 จังหวัดที่มีความสม่ำเสมอในการส่งต่อและสื่อสารต่อเนื่องระหว่าง OR กับร้านขายยา/คลินิก เป็นจังหวัดที่ OR มาจากงานควบคุมโรคที่ได้รับการสนับสนุนดีมากจากงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข (คบส.) รวมทั้ง Mr.TB ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) และ Mr.TB ของโรงพยาบาล (รพ.) ทำให้ รพ. มีช่องทางด่วน (Fast Track) รับผู้ป่วยที่ถูกส่งตัว สรุปผลและข้อเสนอแนะ : มีความเป็นไปได้ที่ร้านขายยาและคลินิกร่วมคัดกรองและส่งต่อผู้ที่เสี่ยงต่อวัณโรค โดยมีผู้ประสานงานจากงานควบคุมโรคของ สสจ. และความร่วมมือที่ดีจากงาน คบส. และผู้บริหารจังหวัด ควรสนับสนุนให้ร้านขายยาและคลินิกรับการอบรมออนไลน์

บทคัดย่อ
Background: The previous study, entitled “The Development of Multi-Sectoral Approaches to End TB in Municipality and Central District (year 1)" was conducted in Chiangrai province in 2019 and 2020 revealed private pharmacies and clinics contributed to 25% tuberculosis (TB) detection rate (6 of 24 referred cases). Subsequently, this project was extended and implemented in 8 provinces of the Health Region 1 amid the Covid-19 pandemic. The project was coordinated by 8 operational researchers (OR) who are government health staff in provinces. The study aimed to develop a model involving pharmacies/clinics to screen and refer persons with TB risks and to investigate factors contributing to the implementation outcomes among 8 provinces. Methods: Developing two digital innovations, i.e. TB-Refer, a web-application for TB screening and referral and a TB online training course. The data were collected for 9 months and analyzed database of TB-Refer. The qualitative methods included in-depth interviews with OR, provincial TB administrators (Mr.TB), hospital staff and the pharmacies/clinics with and without referral cases. Results: The participation rate of pharmacies in 8 provinces is 50.4% (143/284) with a range of 12.7%-100% participation. Participation from clinics is only 4.6% (11/240) with no-participation in 2 provinces. Of the 143 pharmacies, 19 (13.3%) pharmacies screen and referred 37 persons with TB risk to the hospitals, while 2 out of 11 clinics screen and referred 2 cases made up to a total of 39 referred cases (38 symptomatic cases and 1 asymptomatic contact case). Only 19 referred persons arrived the hospitals and received TB screening and one pulmonary TB with sputum positive (AFB 3+) was detected. Fifty-seven pharmacists and five clinics doctors/staff enrolled and completed this training. The median scores of drug stores were increased from 16 (IQR = 4) to 23 (IQR = 2) (p < 0.001) while the mean scores of clinics were increased from 17.8 (SD 4.5) to 21.8 (SD 2.3) (p = 0.034). Drug stores and clinics completing the course had higher proportion of TB screening and referral cases to the hospitals than those without training (22.6% vs 7.6%, p=0.008). Among 8 provinces, only one province demonstrated regular referral and continuity of communications between OR and pharmacies/clinics. The OR of this province is a staff of disease control department who received excellent support from the department of consumer protection and public health pharmacies (CPHP), including supports from Mr.TB of the hospital and the provincial health office, particularly establishing a hospital’s fast track for referred patients. Conclusion and recommendations: It is feasible to involve drug stores and private clinic to screen and refer persons with TB risks to the hospital. The best model is the project’s coordinator should be a staff of disease control with good support of CPHP and provincial health authorities. Personals of drug stores and clinic should attend the TB online training course.
Copyright ผลงานวิชาการเหล่านี้เป็นลิขสิทธิ์ของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข หากมีการนำไปใช้อ้างอิง โปรดอ้างถึงสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข ในฐานะเจ้าของลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติสงวนลิขสิทธิ์สำหรับการนำงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์
ฉบับเต็ม
Thumbnail
ชื่อ: hs3028.pdf
ขนาด: 2.765Mb
รูปแบบ: PDF
ดาวน์โหลด

คู่มือการใช้งาน
(* หากไม่สามารถดาวน์โหลดได้)

จำนวนดาวน์โหลด:
วันนี้: 0
เดือนนี้: 0
ปีงบประมาณนี้: 8
ปีพุทธศักราชนี้: 5
รวมทั้งหมด: 29
 

 
 


 
 
แสดงรายการชิ้นงานแบบเต็ม
คอลเล็คชั่น
  • Research Reports [2471]

    งานวิจัย

ชิ้นงานที่เกี่ยวข้อง

แสดงชิ้นที่เกี่ยวข้องโดย ชื่อเรื่อง ผู้แต่ง ผู้สร้าง และหัวเรื่อง

  • การพัฒนาระบบวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์การระบาดของวัณโรคดื้อยาในชุมชน โดยการศึกษาปัจจัยด้านพันธุกรรมของเชื้อวัณโรคดื้อยา ปัจจัยเจ้าบ้านที่สัมพันธ์กับอัตราการติดเชื้อวัณโรคดื้อยาทั้งจากตัวผู้ป่วยและผู้สัมผัสผู้ป่วย กระบวนการแพร่ระบาด และกระบวนการรักษาในพื้นที่ระบาดของประเทศไทย 

    หัชชา ศรีปลั่ง; Hutcha Sriplung; ณัฏฐกัญจน์ ทิพย์เครือ; Natthakan Thipkrua; สมาน ฟูตระกูล; Samarn futrakul; อิทธิพล จรัสโอฬาร; Itthipol Jarusoran; ก่อพงษ์ ทศพรพงศ์; Koapong Tossapornpong; ผลิน กมลวัทน์; Phalin Kamolwat; ไกรฤกษ์ สุธรรม; Krairurk Sutham; กันยา เอกอัศดร; Kunya Eak-usadorn; กรุณา สุขเกษม; Karuna Sukasem; ณัฐพร ไชยประดิฐกุล; Nathaporn Chaipraditkul; สายใจ สมิทธิการ; Saijai Smitthikarn; จันทิรา สุขะสิฐษ์วณิชกุล; Junthira Sukasitwanitchakul; ณฐกร จันทนะ; Nathakorn Juntana; อารียา ดิษรัฐกิจ; Areeya Ditrathakit; อุษณีย์ อึ้งเจริญ; Usanee Ungcharern (สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข, 2564)
    การศึกษาปัจจัยด้านพันธุกรรมของเชื้อวัณโรคดื้อยา ปัจจัยเจ้าบ้านที่สัมพันธ์กับอัตราการติดเชื้อวัณโรคดื้อยาทั้งจากตัวผู้ป่วยและผู้สัมผัสผู้ป่วย กระบวนการแพร่ระบาดและกระบวนการรักษา เป็นการวิจัยแบบตัดขวาง (Crossectional study) ...
  • การค้นหาสารต้านวัณโรคตัวใหม่ที่มีความจำเพาะสูงในการออกฤทธิ์ยับยั้งการติดเชื้อวัณโรคที่มีการดื้อยา 

    พรพรรณ พึ่งโพธิ์; Pornpan Pungpo; สุภา หารหนองบัว; Supa Hannongbua; อรดี พันธ์กว้าง; Auradee Punkvang; พฤทธิ์ คำศรี; Pharit Kamsri; ประสาท กิตตะคุปต์; Prasat Kittakoop; พจนีย์ ศรีมาโนชญ์; Potjanee Srimanote; ชมภูนุช ส่งสิริฤทธิกุล; Chomphunuch Songsiriritthigul; คมสันต์ สุทธิสินทอง; Khomson Suttisintong (สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข, 2562-06)
    วัณโรคเป็นโรคติดต่อที่เป็นปัญหาทางด้านสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศไทย ในงานวิจัยนี้มุ่งเน้นการออกแบบและค้นหาสารต้านวัณโรคตัวใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงในการยับยั้งวัณโรคดื้อยากลุ่มฟลูออโรควิโนโลน โดยใช้ระเบียบวิธีการจำลองแบบแล ...
  • การศึกษาความชุกของวัณโรคแฝงและการให้ยาไอโซไนอะซิดเพื่อป้องกันการเกิดวัณโรคในเรือนจำของประเทศไทย (ปีที่ 1) 

    กมล แก้วกิติณรงค์; Kamon Kawkitinarong; ศิวะพร เกตุจุมพล; Sivaporn Gatechompol; อัญชลี อวิหิงสานนท์; Anchalee Avihingsanon; กำพล สุวรรณพิมลกุล; Gompol Suwanpimolkul; วีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์; Weerakit Hanparipan (สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข, 2562-11)
    วัณโรค (TB) ยังคงเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของโลกและประเทศไทยยังคงติดอับดับหนึ่งในสิบสี่ประเทศที่มีอุบัติการณ์การเกิดวัณโรคสูงสุดซึ่งรายงานโดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ซึ่งประกอบไปด้วยปัญหาวัณโรคทั่วไป, วัณโรคดื้อยาหลายสาย ...

DSpace software copyright © 2002-2016  DuraSpace
นโยบายความเป็นส่วนตัว | ติดต่อเรา | ส่งความคิดเห็น
Theme by 
Atmire NV
 

 

เลือกตามประเภท (Browse)

ทั้งหมดในคลังข้อมูลDashboardหน่วยงานและประเภทผลงานปีพิมพ์ผู้แต่งชื่อเรื่องคำสำคัญ (หัวเรื่อง)ประเภททรัพยากรนี้ปีพิมพ์ผู้แต่งชื่อเรื่องคำสำคัญ (หัวเรื่อง)หมวดหมู่การบริการสุขภาพ (Health Service Delivery) [619]กำลังคนด้านสุขภาพ (Health Workforce) [99]ระบบสารสนเทศด้านสุขภาพ (Health Information Systems) [286]ผลิตภัณฑ์ วัคซีน และเทคโนโลยีทางการแพทย์ (Medical Products, Vaccines and Technologies) [125]ระบบการเงินการคลังด้านสุขภาพ (Health Systems Financing) [159]ภาวะผู้นำและการอภิบาล (Leadership and Governance) [1283]ปัจจัยสังคมกำหนดสุขภาพ (Social Determinants of Health: SDH) [228]วิจัยระบบสุขภาพ (Health System Research) [28]ระบบวิจัยสุขภาพ (Health Research System) [20]

DSpace software copyright © 2002-2016  DuraSpace
นโยบายความเป็นส่วนตัว | ติดต่อเรา | ส่งความคิดเห็น
Theme by 
Atmire NV