dc.contributor.author | น้ำฝน รินวงษ์ | th_TH |
dc.contributor.author | Namfon Rinwong | th_TH |
dc.contributor.author | ธนมณฑชนก พรหมพินิจ | th_TH |
dc.contributor.author | Tanamontachanok Prompinij | th_TH |
dc.contributor.author | อัจฉรา จินวงษ์ | th_TH |
dc.contributor.author | Achara Jinwong | th_TH |
dc.contributor.author | สังคม ศุภรัตนกุล | th_TH |
dc.contributor.author | Sungkom Suparatanagool | th_TH |
dc.contributor.author | กษมา คงประเสริฐ | th_TH |
dc.contributor.author | Kasama Kongprasert | th_TH |
dc.contributor.author | พัชราภรณ์ ไชยศรี | th_TH |
dc.contributor.author | Patcharaporn Chaisri | th_TH |
dc.date.accessioned | 2023-12-27T07:55:21Z | |
dc.date.available | 2023-12-27T07:55:21Z | |
dc.date.issued | 2566-12 | |
dc.identifier.citation | วารสารวิจัยระบบสาธารณสุข 17,4 (ต.ค. - ธ.ค. 2566) : 699-715 | th_TH |
dc.identifier.issn | 2672-9415 | |
dc.identifier.uri | http://hdl.handle.net/11228/5983 | |
dc.description.abstract | การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงพัฒนา มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและศึกษาผลการให้บริการการแพทย์ฉุกเฉินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตำบลบ้านตาด อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ระหว่างเดือนธันวาคม 2564 - มิถุนายน 2565 กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วย 3 กลุ่มคือ 1) กลุ่มวิชาการ จำนวน 34 คน 2) กลุ่มองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 23 คน 3) ประชาชนในเขตเทศบาลตำบลบ้านตาด จำนวน 388 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยภายใต้ 3 กระบวนการ 1) กระบวนการสำรวจปัญหา 2) กระบวนการเชิงพัฒนา 3) กระบวนการประเมินผลการพัฒนา วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพในกระบวนการสำรวจปัญหาและกระบวนการเชิงพัฒนา จากการสัมภาษณ์เชิงลึก และการสนทนากลุ่ม วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติเชิงอนุมาน independent t-test ผลการศึกษาและการประเมินผลการพัฒนา พบว่า 1) หลังการให้บริการการแพทย์ฉุกเฉิน ประชาชนมีความเข้าใจในการแจ้งเหตุด้านอุบัติเหตุและภาวะฉุกเฉินที่ถูกต้องเพิ่มมากขึ้น และแตกต่างจากก่อนการพัฒนาอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value<0.001) 2) กลุ่มผู้ปฏิบัติงาน ปฏิบัติงานตรงเวลาเพิ่มมากขึ้น และแตกต่างจากก่อนการพัฒนาอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value<0.05) และ 3) มีการพัฒนาความพร้อมด้านทรัพยากรในการดำเนินการงานด้านระบบการแพทย์ฉุกเฉินที่เพิ่มขึ้นหลังจากพัฒนาระบบ จากเดิมร้อยละ 96.4 เพิ่มเป็นร้อยละ 99.4 สรุปได้ว่า รูปแบบการให้บริการการแพทย์ฉุกเฉินส่งผลให้ประชาชนมีความเข้าใจในการแจ้งเหตุที่ถูกต้องเพิ่มมากขึ้นและชุดผู้ปฏิบัติการมีการทำงานตรงเวลาเพิ่มขึ้น ซึ่งรูปแบบดังกล่าวจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง | th_TH |
dc.description.sponsorship | สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข | th_TH |
dc.language.iso | th | th_TH |
dc.publisher | สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข | th_TH |
dc.rights | สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข | th_TH |
dc.subject | Emergency Medical Service | th_TH |
dc.subject | การพยาบาลฉุกเฉิน | th_TH |
dc.subject | องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น | th_TH |
dc.subject | Local Government | th_TH |
dc.subject | Local Government--Administration | th_TH |
dc.title | การให้บริการการแพทย์ฉุกเฉิน : กรณีศึกษาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตำบลบ้านตาด อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี | th_TH |
dc.title.alternative | Emergency Medical Service: A Case Study of the Local Government Administration Ban Tad Subdistrict, Mueang District, Udon Thani Province | th_TH |
dc.type | Article | th_TH |
dc.description.abstractalternative | This action research aimed to develop and evaluate the emergency medical service (EMS) in the local government administration Ban Tad subdistrict, Udon Thani province. The research was conducted during December 2021 - June 2022. Three target groups included: 1) 34 participants in academic group; 2) 23 participants of the local government administration; and 3) 388 people of Ban Tad subdistrict municipality. Three research processes were conducted: 1) exploration of the EMS problems; 2) development process; and 3) evaluation by using qualitative in-depth interview and focus group discussion. Data were analyzed descriptively by percentage, average, standard deviation, and by inferential independent t-test. It was found that the development of emergency medical service improved people’s knowledge on the EMS call center (before and after implementation p-value = 0.001). The EMS workforce’s time performance improved significantly after development (p-value < 0.05). The preparedness of resources for EMS operations improved from 96.4% to 99.4% after development. In conclusion, the Ban Tad local government EMS development success required indispensable cooperation from all parties. | th_TH |
dc.subject.keyword | EMS | th_TH |
dc.subject.keyword | การให้บริการการแพทย์ฉุกเฉิน | th_TH |
dc.subject.keyword | Efficiency of Emergency Medical Service | th_TH |
dc.subject.keyword | ผลการพัฒนาการให้บริการการแพทย์ฉุกเฉิน | th_TH |
dc.subject.keyword | Local Government Administration | th_TH |
.custom.citation | น้ำฝน รินวงษ์, Namfon Rinwong, ธนมณฑชนก พรหมพินิจ, Tanamontachanok Prompinij, อัจฉรา จินวงษ์, Achara Jinwong, สังคม ศุภรัตนกุล, Sungkom Suparatanagool, กษมา คงประเสริฐ, Kasama Kongprasert, พัชราภรณ์ ไชยศรี and Patcharaporn Chaisri. "การให้บริการการแพทย์ฉุกเฉิน : กรณีศึกษาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตำบลบ้านตาด อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี." 2566. <a href="http://hdl.handle.net/11228/5983">http://hdl.handle.net/11228/5983</a>. | |
.custom.total_download | 396 | |
.custom.downloaded_today | 1 | |
.custom.downloaded_this_month | 33 | |
.custom.downloaded_this_year | 380 | |
.custom.downloaded_fiscal_year | 77 | |