• TH
    • EN
    • สมัครสมาชิก
    • เข้าสู่ระบบ
    • ลืมรหัสผ่าน
    • ช่วยเหลือ
    • ติดต่อเรา
  • สมัครสมาชิก
  • เข้าสู่ระบบ
  • ลืมรหัสผ่าน
  • ช่วยเหลือ
  • ติดต่อเรา
  • TH 
    • TH
    • EN
ดูรายการ 
  •   หน้าแรก
  • สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) - Health Systems Research Institute (HSRI)
  • Research Reports
  • ดูรายการ
  •   หน้าแรก
  • สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) - Health Systems Research Institute (HSRI)
  • Research Reports
  • ดูรายการ
JavaScript is disabled for your browser. Some features of this site may not work without it.

การพัฒนาหลักสูตรพัฒนาสมรรถนะพนักงานเปลเพื่อรองรับระบบบริการสุขภาพคุณภาพสูง

วิชัย เทียนถาวร; Vichai Tienthavorn; วณิชา ชื่นกองแก้ว; Wanicha Chuenkongkaew; ลัดดา เหลืองรัตนมาศ; Ladda Leungratanamart; ภานุ อดกลั้น; Panu Odklun; พิชญ์สินี มงคลศิริ; Pitsini Mongkhonsiri; กิตติพร เนาว์สุวรรณ; Kittiporn Nawsuwan; โรชินี อุปรา; Roshinee Oupra; ภัคณัฐ วีรขจร; Phakkhanat Weerakhachon; สมตระกูล ราศิริ; Somtakul Rasiri; นภชา สิงห์วีรธรรม; Noppcha Singweratham;
วันที่: 2567-04
บทคัดย่อ
พนักงานเปลเป็นบุคลากรที่ให้บริการด่านหน้าของโรงพยาบาล ซึ่งคาดว่าแนวโน้มการบริการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยจะสูงขึ้นเรื่อยๆ การปฏิบัติงานจึงต้องมีความรวดเร็ว ทันเวลา ถูกต้องและปลอดภัย สอดคล้องกับนโยบาย 3P safety นอกจากนี้ลักษณะการทำงานของพนักงานเปล มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดความผิดปกติทางระบบกล้ามเนื้ออาจทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อทั้งผู้ป่วยและโรงพยาบาล การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนาโดยมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาองค์ประกอบและตัวชี้วัดสมรรถนะพนักงานเปลในโรงพยาบาลเพื่อรองรับระบบบริการสุขภาพที่มีคุณภาพสูง 2) สร้างและพัฒนาหลักสูตรพัฒนาศักยภาพพนักงานเปลเพื่อรองรับระบบบริการสุขภาพที่มีคุณภาพสูง และ 3) ศึกษาข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการพัฒนาศักยภาพพนักงานเปลในโรงพยาบาลเพื่อรองรับระบบบริการสุขภาพที่มีคุณภาพสูง รูปแบบการวิจัย เป็นวิจัยและพัฒนามี 4 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 ศึกษาองค์ประกอบและตัวชี้วัดสมรรถนะพนักงานเปล ระยะที่ 2 สร้างและพัฒนาหลักสูตรโดยจัดทำร่างหลักสูตรภายใต้แนวคิดของ Taba ระยะที่ 3 ประเมินประสิทธิผลของหลักสูตร และระยะที่ 4 จัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายการพัฒนาสมรรถนะพนักงานเปล กลุ่มตัวอย่างเป็นพนักงานเปลที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ระยะที่ 1 เลือกโดยวิธีสุ่ม จำนวน 252 คน ระยะที่ 3 เลือกแบบเฉพาะเจาะจง โดยแบ่งเป็น 4 ภาค ภาคละ 30 คน เครื่องมือวิจัยประกอบด้วย 1) หลักสูตรพัฒนาสมรรถนะพนักงานเปล 2) คู่มือ 3) วิดีโอ 4) แบบประเมินสมรรถนะพนักงานเปล 5) แบบทดสอบความรู้ก่อนและหลังเข้ารับการอบรมหลักสูตรฯ 6) แบบประเมินทักษะปฏิบัติ 7) แบบสอบถามความพึงพอใจของพนักงานเปลต่อการเข้าร่วมอบรม 8) แบบประเมินความเหมาะสม ความเป็นไปได้ ความสอดคล้องและความเป็นประโยชน์ของหลักสูตรพัฒนาสมรรถนะพนักงานเปล การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณด้วยค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์องค์ประกอบเปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยสมรรถนะพนักงานเปลก่อนและหลังเข้ารับการอบรมด้วยสถิติทดสอบที (t- dependent test) และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยการวิเคราะห์เนื้อหาที่ได้จากการสัมภาษณ์ ผลการวิจัยพบว่า 1) สมรรถนะพนักงานเปลประกอบด้วย 6 องค์ประกอบ 25 ตัวชี้วัด ตรวจสอบคุณภาพของแบบสอบถามสมรรถนะพนักงานเปล ความตรงเชิงเนื้อหามีค่า IOC อยู่ระหว่าง 0.6-1 ค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามเท่ากับ 0.92 2) หลักสูตรที่พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิดของ Taba 7 ขั้นตอน และแนวคิดหลักสูตรภายใต้ฐานสมรรถนะองค์ประกอบของหลักสูตรประกอบด้วย วัตถุประสงค์หลัก เนื้อหาสาระตามสมรรถนะ 6 โมดูล ได้แก่ การให้บริการตามมาตรฐาน สิทธิผู้ป่วย การบริการผู้ป่วย การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยขั้นพื้นฐาน ศิลปะและการสื่อสารในการให้บริการ การดูแลตนเองและสมรรถนะทางกาย นำหลักสูตรไปทดลองใช้กับพนักงานเปลระยะเวลาจัดการอบรม 3 วัน ประกอบด้วยการบรรยาย และการฝึกทักษะปฏิบัติ 10 ทักษะ โดยแบ่งกลุ่มย่อยฝึกฐานต่างๆ 3 ฐาน ประเมินประสิทธิผลหลักสูตรพบว่า ภายหลังเข้ารับการอบรมหลักสูตรฯ มีความรู้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001 ค่า E1/E2 เท่ากับ 95.11/72.26 มีค่าเฉลี่ยสมรรถนะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001 ความพึงพอใจของพนักงานเปลที่เข้ารับการอบรมหลักสูตรพัฒนาสมรรถนะในภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก โดยข้อที่มีคะแนนเฉลี่ยสูงที่สุดคือความพึงใจด้านการนำไปใช้ประโยชน์มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (x¯= 4.84, SD = 0.33) และ 3. ข้อเสนอเชิงนโยบาย ส่งเสริมให้สถาบันการศึกษาและสถานบริการสุขภาพ เสริมสร้างพนักงานเปลให้มีความเชี่ยวชาญและเป็นเลิศ โดยมีหลักสูตรที่ตรงตามระดับความเชี่ยวชาญทั้ง ระดับพื้นฐานและระดับสูง พัฒนาแหล่งเรียนรู้อย่างเป็นระบบในทุกเขตสุขภาพ และสื่อการเรียนรู้ที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิตพนักงานเปลในการทำงาน ผลักดันให้มีการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อการบริหารจัดการพนักงานเปลที่ครอบคลุมตามภารกิจของพนักงานเปลรวมถึงการป้องกันอันตรายส่วนบุคคลที่มีประสิทธิภาพ ให้มีระบบบริหารงานพนักงานเปลที่มีความเป็นธรรม สร้างขวัญกำลังใจและส่งเสริมให้ปฏิบัติงานได้อย่างเต็มตามศักยภาพ

บทคัดย่อ
Patients Transport personnel are individuals who work at the hospital frontiers, and the trend in moving and handling patients is estimated to rise consecutively. It is important that the patient moving process should be fast, timely, accurate, and safe. This is also relevant to 3P safety policy, which concerns the patients' Transport personnel who have a high risk of injuring their muscles, which could diminish work efficiency, impacting both patients and the hospital. This research aims to: 1) Investigate the components and performance indicators of Patients Transport personnel to support high-quality healthcare services. 2) Develop competency enhancement programs for Patients Transport personnel to align with high-quality healthcare services. 3)Propose policy recommendations for developing Patients Transport personnel competencies in hospitals to support high-quality healthcare services. This research was conducted using the research and development methodology comprising four phases: Phase 1 involves studying the components and performance indicators of Patients Transport personnel. Phase 2 entails developing and refining the training curriculum based on Taba's conceptual framework. Phase 3 involves evaluating the effectiveness of the curriculum. Phase 4 involves formulating policy recommendations for enhancing Patients Transport personnel competencies. The study sample consists of Patients Transport personnel from Ministry of Public Health-affiliated hospitals. For Phase 1, a random sampling method was employed, selecting 252 individuals. For Phase 3, a purposive sampling method was used, dividing participants into four regions with 30 persons in each group. The research tools include: 1) Competency development curriculum, 2) Manuals, 3) Videos 4) Competency assessment forms 5) pre- and post-training knowledge tests 6) Practical skills assessment forms 7) Surveys on Patients Transport personnel satisfaction with training participation 8) Suitability, feasibility, congruence, and utility assessment forms for the competency development curriculum. Quantitative data were analyzed using percentages, means, standard deviations, and t-tests to compare pre- and post-training competency levels. Qualitative analysis entails content analysis of interview transcripts.
Copyright ผลงานวิชาการเหล่านี้เป็นลิขสิทธิ์ของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข หากมีการนำไปใช้อ้างอิง โปรดอ้างถึงสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข ในฐานะเจ้าของลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติสงวนลิขสิทธิ์สำหรับการนำงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์
ฉบับเต็ม
Thumbnail
ชื่อ: hs3133.pdf
ขนาด: 9.043Mb
รูปแบบ: PDF
ดาวน์โหลด

คู่มือการใช้งาน
(* หากไม่สามารถดาวน์โหลดได้)

จำนวนดาวน์โหลด:
วันนี้: 0
เดือนนี้: 0
ปีงบประมาณนี้: 11
ปีพุทธศักราชนี้: 9
รวมทั้งหมด: 39
 

 
 


 
 
แสดงรายการชิ้นงานแบบเต็ม
คอลเล็คชั่น
  • Research Reports [2471]

    งานวิจัย

ชิ้นงานที่เกี่ยวข้อง

แสดงชิ้นที่เกี่ยวข้องโดย ชื่อเรื่อง ผู้แต่ง ผู้สร้าง และหัวเรื่อง

  • การประเมินศักยภาพของระบบสุขภาพในความพร้อมรับมือการระบาดโรค COVID-19 ในพื้นที่ชายแดน จังหวัดเชียงราย 

    อนุสรณ์ อุดปล้อง; Anusorn Udplong; ธวัชชัย อภิเดชกุล; Tawatchai Apidechkul; ฟาติมา ยีหมาด; Fartima Yeemard (สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข, 2565-10)
    การวิจัยแบบภาคตัดขวางนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินศักยภาพของบุคลากรและระบบสุขภาพในการดำเนินการป้องกันและควบคุมโรค COVID-19 ของหน่วยงานสังกัดกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงมหาดไทย ในพื้นที่อำเภอชายแดนจังหวัดเชียงราย คือ ...
  • การพัฒนาประสิทธิภาพทางการคลังที่ยั่งยืนสำหรับระบบหลักประกันสุขภาพ และแบบจำลองการจัดสรรทรัพยากรกำลังคนด้านสุขภาพ 

    ทีปกร จิร์ฐิติกุลชัย; Theepakorn Jithitikulchai (สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข, 2564-06)
    โครงการวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ 1) พื้นที่การคลังสาธารณสุข: ประมาณการช่องว่างในการกำหนดงบประมาณ (Fiscal Space) ของระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าและระบบสาธารณสุข และ 2) การจัดสรรบุคลากร: ศึกษาช่องว่างอุปส ...
  • ประชุมวิชาการระดับนานาชาติ สมาคมนักระบาดวิทยาภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้านสาธารณสุขและการพัฒนาที่ยั่งยืน 

    ธวัชชัย อภิเดชกุล; Tawatchai Apidechkul (สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข, 2565-11)
    การประชุมวิชาการระดับนานาชาติ สมาคมรักระบาดวิทยาภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้านสาธารณสุขและการพัฒนาที่ยั่งยืน (The 14th SEA Regional Scientific Meeting of the International Epidemiological Association and International ...

DSpace software copyright © 2002-2016  DuraSpace
นโยบายความเป็นส่วนตัว | ติดต่อเรา | ส่งความคิดเห็น
Theme by 
Atmire NV
 

 

เลือกตามประเภท (Browse)

ทั้งหมดในคลังข้อมูลDashboardหน่วยงานและประเภทผลงานปีพิมพ์ผู้แต่งชื่อเรื่องคำสำคัญ (หัวเรื่อง)ประเภททรัพยากรนี้ปีพิมพ์ผู้แต่งชื่อเรื่องคำสำคัญ (หัวเรื่อง)หมวดหมู่การบริการสุขภาพ (Health Service Delivery) [619]กำลังคนด้านสุขภาพ (Health Workforce) [99]ระบบสารสนเทศด้านสุขภาพ (Health Information Systems) [286]ผลิตภัณฑ์ วัคซีน และเทคโนโลยีทางการแพทย์ (Medical Products, Vaccines and Technologies) [125]ระบบการเงินการคลังด้านสุขภาพ (Health Systems Financing) [159]ภาวะผู้นำและการอภิบาล (Leadership and Governance) [1283]ปัจจัยสังคมกำหนดสุขภาพ (Social Determinants of Health: SDH) [228]วิจัยระบบสุขภาพ (Health System Research) [28]ระบบวิจัยสุขภาพ (Health Research System) [20]

DSpace software copyright © 2002-2016  DuraSpace
นโยบายความเป็นส่วนตัว | ติดต่อเรา | ส่งความคิดเห็น
Theme by 
Atmire NV