บทคัดย่อ
แชทบอทปัญญาประดิษฐ์ด้านสุขภาพจิตมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการให้บริการด้านสุขภาพจิตด้วยเหตุผลหลายประการ เช่น การเข้าถึงง่าย การปิดบังตัวตนและความเป็นส่วนตัว การลดการตีตรา ลดภาระงานของบุคลากรด้านสุขภาพจิต เป็นเครื่องมือให้การช่วยเหลือในระยะเริ่มแรก สามารถให้การดูแลด้านสุขภาพจิตได้ตลอด 24 ชั่วโมง เป็นเครื่องมือให้แนวทางดูแลตนเองด้านสุขภาพจิต สนับสนุนการทำงานของบุคลากรด้านสุขภาพจิตในแง่ของการบำบัดรักษา เป็นแหล่งให้ข้อมูล รวมถึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า และสามารถต่อยอดได้อย่างกว้างขวาง แม้ว่าการพัฒนาแชทบอทปัญญาประดิษฐ์ด้านสุขภาพจิตจะมีประโยชน์ แต่ในการพัฒนาแชทบอทดังกล่าวก็มีความยาก และมีข้อจำกัดทั้งในเรื่องของความเชี่ยวชาญและเรื่องของเทคโนโลยี ในช่วงระยะเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา ได้มีหน่วยงานด้านสุขภาพจิตต่าง ๆ พยายามพัฒนาแชทบอทปัญญาประดิษฐ์ด้านสุขภาพจิตเพื่อให้บริการแก่กลุ่มประชากรและประเด็นปัญหาที่เฉพาะเจาะจง แต่ไม่เพียงแต่ข้อจำกัดที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นเท่านั้น การพัฒนาชั้นปลอดปัญญาประดิษฐ์ด้านสุขภาพจิตยังต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญ งบประมาณและใช้ระยะเวลาในการพัฒนาค่อนข้างมาก ซึ่งส่งผลให้ความพยายามในการพัฒนาแชทบอทปัญญาประดิษฐ์ด้านสุขภาพจิตยังไม่ได้รับความสำเร็จเท่าที่ควร โครงการนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อใช้แพลตฟอร์มกลางสำหรับการสร้างเครื่องมือช่วยเหลือทางจิตใจ เครื่องมือพัฒนาแชทบอทปัญญาประดิษฐ์ด้านสุขภาพจิต สนับสนุนและช่วยเหลือให้บุคลากรที่ไม่มีความรู้ด้านการเขียนโปรแกรม หรือการเขียนโค้ดให้สามารถพัฒนาแชทบอทปัญญาประดิษฐ์ได้สำเร็จ ด้วยรูปแบบการใช้งานแบบลากและวางโมเดลปัญญาประดิษฐ์พร้อมใช้สำหรับการวิเคราะห์อารมณ์และหัวข้อการสนทนา หลักสูตรการอบรมและการติดตามผล ทำให้ผลจากการดำเนินโครงการช่วยให้มีแชทบอทที่พัฒนาแล้วเสร็จและเปิดให้ใช้งานแล้วทั้งสิ้น 26 แชทบอท ซึ่งนอกจากในระยะเวลาการดำเนินโครงการ 18 เดือน จะทำให้ได้แชทบอท 26 แชทบอทที่เข้าถึงผู้ใช้งานกว่า 2,000 รายทั่วประเทศแล้ว การพัฒนาแชทบอทยังทำให้เกิดงานวิจัยอีก 6 งานวิจัยที่อยู่ในระหว่างการดำเนินการ ดังนี้ 1. การศึกษาผลของการใช้งานแชทบอทสำหรับเรียนรู้วิธีการดูแลผู้ป่วยสมองเสื่อมที่มีต่อระดับความเครียดของผู้ดูแลผู้ป่วยสมองเสื่อม 2. การศึกษานำร่อง ผลของการใช้ดนตรีเพื่อการจัดการความเครียดผ่านทางแชทบอทปัญญาประดิษฐ์ 3. ผลของการใช้งาน PSYSAM แชทบอทสุขภาพจิตที่มีต่อภาวะอารมณ์ความรู้ของผู้ป่วยเอชไอวีรายใหม่ในโรงพยาบาลสังกัดสำนักการแพทย์แห่งหนึ่ง 4. การศึกษาผลของการใช้งานแชทบอทในการให้สุขภาพจิตศึกษาด้านภาวะซึมเศร้าในวัยรุ่นผ่านระบบหุ่นยนต์โต้ตอบอัตโนมัติ 5. พัฒนาระบบหุ่นยนต์โต้ตอบอัตโนมัติราชานุกูล: สำหรับผู้ปกครองของเด็กที่มีพัฒนาการล่าช้า 6. พัฒนาระบบหุ่นยนต์โต้ตอบอัตโนมัติราชานุกูล: สำหรับผู้ปกครองเด็กที่มีความบกพร่องทางภาษาและการพูด จะเห็นได้ว่า โครงการแพลตฟอร์มกลางสำหรับการสร้างเครื่องมือช่วยเหลือทางจิตใจเพื่อยกระดับการให้บริการสุขภาพจิตด้วยเทคโนโลยีหุ่นยนต์โต้ตอบอัตโนมัติในประเทศไทยด้วยปัญญาประดิษฐ์ มีส่วนอย่างมากในการพัฒนาการให้บริการสุขภาพจิตในหลากหลายรูปแบบและกลุ่มประชากร เอื้อต่อการวิจัย อีกทั้งยังเป็นการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการบริการที่ยั่งยืนอีกด้วย
บทคัดย่อ
AI mental health chatbots play a significant role in supporting mental health for various
reasons such as accessibility, anonymity and privacy, reducing stigma, reducing workload of
mental health professionals, providing early intervention, providing 24/7 support, providing
guided self-help, supplementing human professionals, providing data and insights as well as
being a cost-effective tool which has high scalability.
Although being beneficial but developing AI mental health chatbots presents several
challenges including mental health expertise and understanding as well as technical
challenges. In this recent years, mental health setting across the country have showed
interests in developing AI mental health chatbot to provide services to a particular population
and issues. However, not only the two challenges mentioned above, developing an AI mental
health chatbot requires manpower, budget, and it is time consuming. As a result, developing
and employing AI mental health chatbot has not succeeded.
This project aims to provide AI mental health chatbot creator for mental health
professionals who do not have programming or coding skills to be able to develop their own
AI mental health chatbot. With a drag-and-drop user interface, ready-to-use AI models for
emotion and topic classification, a training program as well as multiple one-on-one mentoring
sessions, this project has successfully help 26 mental health settings to develop and employ
their own AI mental health chatbots.
Withing this 18 months, apart from successfully developed the 26 chatbots that have
reached more than 2000 users across the country, there are also 6 ongoing researches
emerged from this projects which are;
1. The Effectiveness of Using Educational Intervention for Dementia Caregivers via LINE
Chatbot on Stress, Anxiety and Depression by Psychology Department Neurological Institute
of Thailand.
2. The Effects of Music Interventions for Stress Regulation in Daily Life via Artificial
Intelligence Chatbot: A Pilot Study by Thailand Mental Health Technology and Innovation
Center.
3. The Effectiveness of Using Educational Intervention for Dementia Caregivers via LINE
Chatbot on Stress, Anxiety and Depression by Psychiatry Department, Ratchapiphat Hospital.
4. The study of using AI chatbot for psychoeducation in Depression among adolescents
by Guidance Department, Assumption College.
5. The development of the Rajanukul Chatbot: for caregivers of children with delayed
development by Research and Development Department, Rajanukul Insititute.
6. The development of the Rajanukul Chatbot: for caregivers of children with speech
and language impairment by Medical Rehabilitation Department, Speech Therapy Unit
Rajanukul Insititute.
Based on the above outcome, it is shown that the AI Psychological Intervention Open
Platform for Improving Mental Health Service Using Artificial Intelligent Conversation Agent in
Thailand project has contributed to the improvement of mental health services to various
populations. It supports psychological and mental health research as well as being a
sustainable technology for Thailand.