• TH
    • EN
    • สมัครสมาชิก
    • เข้าสู่ระบบ
    • ลืมรหัสผ่าน
    • ช่วยเหลือ
    • ติดต่อเรา
  • สมัครสมาชิก
  • เข้าสู่ระบบ
  • ลืมรหัสผ่าน
  • ช่วยเหลือ
  • ติดต่อเรา
  • TH 
    • TH
    • EN
ดูรายการ 
  •   หน้าแรก
  • สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) - Health Systems Research Institute (HSRI)
  • Research Reports
  • ดูรายการ
  •   หน้าแรก
  • สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) - Health Systems Research Institute (HSRI)
  • Research Reports
  • ดูรายการ
JavaScript is disabled for your browser. Some features of this site may not work without it.

การศึกษาคุณลักษณะทางจีโนมของไวรัสโรทาที่ก่อโรคอุจจาระร่วงในคนและในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม

รัตนา ตาเจริญเมือง; Ratana Tacharoenmuang; ผกาพรรณ สิงห์ชัย; Phakapun Singchai; ธีร์วศิษฐ์ แพทย์สมาน; Teewasit Phatsaman; สรรทิพย์ กองจร; Santip Kongjorn; ทิพย์สุดา ลือชาคำ; Tipsuda Luechakham; กรัณย์ สุทธิวราคม; Karun Suthivarakom; นภา อ่อนวิมล; Napa Onvimala; วันดี เที่ยงธรรม; Wandee Thiangtum; พราน ไพรสุวรรณ์; Pran Prisuwan; ณวรัฎ อติรัตนา; Nawarat Atirattana; บุญนิภา สงคราม; Boonipa Songkhram; วลัยภรณ์ แก้ววงษา; Walaiporn Kaewwongsa; นพมาศ วุฒา; Noppamas Wuttha; อาชวินทร์ โรจนวิวัฒน์; Archawin Rojanawiwat;
วันที่: 2568-11
บทคัดย่อ
ไวรัสโรทาเป็นสาเหตุหลักของโรคอุจจาระร่วงในประเทศที่พัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา มีการประมาณไว้ว่าในทุก ๆ ปี จะมีผู้ป่วยอุจจาระร่วงจากเชื้อไวรัสโรทาเสียชีวิตจำนวน 215,000 คน ทั่วโลก ส่วนใหญ่เป็นเด็กที่อายุน้อยกว่า 5 ปี นอกจากก่อโรคอุจจาระร่วงในคนแล้ว ไวรัสโรทานั้นสามารถก่อโรคอุจจาระร่วงในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและสัตว์ปีก โดยเฉพาะสัตว์เศรษฐกิจ เช่น วัว หมู และม้า สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมบางชนิดเป็น reservoirs ของไวรัสโรทาที่ก่อโรคในคน แม้ว่าไวรัสโรทาจะมีวัคซีนที่ใช้ป้องกันถึง 2 ชนิดแล้ว แต่ด้วยคุณสมบัติทางจีโนมของไวรัสโรทาที่มียีนมากถึง 11 ยีน จึงทำให้เกิดการผสมข้ามยีนกันในแต่ละ 11 ยีน (Reassortment) เกิดเป็นสายพันธุ์ใหม่ได้ง่าย ปัจจุบันพบไวรัสโรทาสายพันธุ์ใหม่ที่เกิดจากการผสมข้ามยีนกันระหว่างไวรัสโรทาในคนและในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม โดยเฉพาะ วัว หมู และม้า (human-bovine, human-porcine and human-equine rotaviruses) ที่พบในอัตราที่สูงกว่าสัตว์ชนิดอื่น ซึ่งวัคซีนที่ใช้ในปัจจุบันอาจไม่สามารถป้องกันเชื้อสายพันธุ์ใหม่นี้ได้และไวรัสโรทาสายพันธุ์ใหม่นี้อาจก่อความรุนแรงของโรคได้ การศึกษาสายพันธุ์และคุณสมบัติทางจีโนมของไวรัสโรทาที่ก่อโรคอุจจาระร่วงในคนและในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์หาการกลายพันธุ์จากวิวัฒนาการของเชื้อและการผสมแลกเปลี่ยนยีนข้ามสายพันธุ์ระหว่างไวรัสโรทาในคนกับสัตว์ (Reassortment) โดยระหว่างวันที่ 3 กรกฎาคม 2565 ถึงวันที่ 3 ตุลาคม 2566 คณะผู้วิจัยได้ดำเนินการเก็บตัวอย่างอุจจาระในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ราชบุรี และอุดรธานี รวมทั้งหมด 857 ตัวอย่าง เป็นอุจจาระจากผู้ป่วยโรคอุจจาระร่วง จำนวน 339 ตัวอย่าง และตัวอย่างอุจจาระวัว หมู และม้า ที่ป่วยเป็นโรคอุจจาระร่วงจำนวน 343, 147 และ 28 ตัวอย่างตามลำดับ นำตัวอย่างทั้งหมดจำนวน 857 ตัวอย่างมาตรวจวิเคราะห์หาไวรัสโรทาโดยวิธี Conventional RT-PCR พบผลบวกต่อโรทาจำนวน 110 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 12.8 ประกอบด้วยไวรัสโรทากลุ่มเอ จำนวน 94 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 85.5 และเป็นไวรัสโรทากลุ่มซีจำนวน 16 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 14.5 จากจำนวนผลบวกทั้งหมด จากนั้นนำไวรัสโรทากลุ่มเอ จำนวน 94 ตัวอย่าง มาวิเคราะห์หาลำดับเบสของยีน VP7 และ VP4 ด้วยวิธี Sanger sequencing พบว่าไวรัสโรทาที่พบในผู้ป่วยเป็นสายพันธุ์ G3P[8] สูงสุดที่จำนวน 38 ตัวอย่างและพบ G1P[8], G5P[6] และ G8P[8] จำนวน 2, 1 และ 2 ตามลำดับ ส่วนไวรัสโรทาที่พบในวัวเป็นสายพันธุ์ G6P[11] สูงสุดที่จำนวน 20 ตัวอย่างและพบ G1P[6], G3P[8] และ G10P[11] จำนวน 1, 1 และ 6 ตัวอย่างตามลำดับ ส่วนไวรัสโรทาที่พบในหมูเป็นสายพันธุ์ G9P[13] จำนวน 23 ตัวอย่าง จากนั้นจึงนำตัวอย่างไวรัสโรทากลุ่มเอที่พบทั้งหมด 94 มาถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมด้วยเทคนิค Next-generation sequencing (NGS) แล้วนำผลการทำ NGS มาวิเคราะห์ด้วยโปรแกรม CLC genomics workbench และ Geneious เบื้องต้นพบว่าไวรัสโรทาสายพันธุ์ G3P[8] ที่พบในคนและวัวมียีนทั้ง 11 ยีนมีต้นกำเนิดมาจากไวรัสโรทาในคน ส่วนสายพันธุ์ G6P[11] และ G10P[11] ที่พบในวัวนั้น ยีนส่วน VP7, VP4, NSP4 และ NSP4 มีต้นกำเนิดมาจากไวรัสโรทาในคน สำหรับ G9P[13] ที่พบในหมูนั้นยีนทั้ง 11 ยีนมีต้นกำเนิดมาจากไวรัสโรทาในหมู

บทคัดย่อ
Rotavirus is the leading cause of diarrhea in developed and developing countries. It is estimated that every year there will be 215,000 deaths from rotavirus diarrhea worldwide, mostly in children younger than 5 years old. Besides causing diarrhea in humans, rotavirus can also cause diarrhea in animals especially for economic animals such as pigs, cows, chickens, and ducks. Rotavirus genome consists of 11 genes, and reassortment has easily occurred. Currently, new strains of rotavirus caused by reassortment of rotavirus genes have been found in humans and mammals, especially cows, pigs, and horse at high rates than other animals and the current rotavirus vaccine may not protect against this new strain. The aim of this study is to study of strains and genomic properties of rotavirus causing diarrhea in humans and mammals and to analyze the evolutionary mutation of the rotavirus. During 3 July 2022 – 3 October 2023, 857 stool samples were collected from Nakhon Pathom Ratchaburi and Udonthani provinces, 339 stools were collected from diarrhea cases and 518 stools were collected from diarrheic cow, pig and horse. 857 samples were subjected to detect rotavirus by conventional RT-PCR, and 110 samples were positive rotavirus. 94 samples from 110 samples were identified as group A rotavirus (RVA), and the other 16 is group C rotavirus (RVC). Then 94 of RVA positive samples were subject to analyzed the VP7 and VP4 genes by Sanger sequencing. The results shown that G3P[8] was found in human samples, and we found G1P[8], G5P[6] and G8P[8] in small number. While the rotavirus from cow were G6P[11] and G10P[11], the other genotype was found in small number is G1P[6] and G3P[8]. For the all 19 porcine rotavirus were belong to G9P[13]. Then all 98 RVA were subject to perform the whole-genome characteristics using Illumina Miseq. The whole genome analysis result shown that each of 11 genes of G3P[8] was originated from human rotavirus. While the whole genome of G6P[11] and G10P[11] has reassortant between human and bovine rotavirus among 11 genes.
Copyright ผลงานวิชาการเหล่านี้เป็นลิขสิทธิ์ของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข หากมีการนำไปใช้อ้างอิง โปรดอ้างถึงสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข ในฐานะเจ้าของลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติสงวนลิขสิทธิ์สำหรับการนำงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์
ฉบับเต็ม
Thumbnail
ชื่อ: hs3339.pdf
ขนาด: 1014.Kb
รูปแบบ: PDF
ดาวน์โหลด

คู่มือการใช้งาน
(* หากไม่สามารถดาวน์โหลดได้)

จำนวนดาวน์โหลด:
วันนี้: 1
เดือนนี้: 1
ปีงบประมาณนี้: 1
ปีพุทธศักราชนี้: 1
รวมทั้งหมด: 1
 

 
 


 
 
แสดงรายการชิ้นงานแบบเต็ม
คอลเล็คชั่น
  • Research Reports [2530]

    งานวิจัย


DSpace software copyright © 2002-2016  DuraSpace
นโยบายความเป็นส่วนตัว | ติดต่อเรา | ส่งความคิดเห็น
Theme by 
Atmire NV
 

 

เลือกตามประเภท (Browse)

ทั้งหมดในคลังข้อมูลDashboardหน่วยงานและประเภทผลงานปีพิมพ์ผู้แต่งชื่อเรื่องคำสำคัญ (หัวเรื่อง)ประเภททรัพยากรนี้ปีพิมพ์ผู้แต่งชื่อเรื่องคำสำคัญ (หัวเรื่อง)หมวดหมู่การบริการสุขภาพ (Health Service Delivery) [634]กำลังคนด้านสุขภาพ (Health Workforce) [102]ระบบสารสนเทศด้านสุขภาพ (Health Information Systems) [288]ผลิตภัณฑ์ วัคซีน และเทคโนโลยีทางการแพทย์ (Medical Products, Vaccines and Technologies) [129]ระบบการเงินการคลังด้านสุขภาพ (Health Systems Financing) [162]ภาวะผู้นำและการอภิบาล (Leadership and Governance) [1325]ปัจจัยสังคมกำหนดสุขภาพ (Social Determinants of Health: SDH) [234]วิจัยระบบสุขภาพ (Health System Research) [28]ระบบวิจัยสุขภาพ (Health Research System) [22]

DSpace software copyright © 2002-2016  DuraSpace
นโยบายความเป็นส่วนตัว | ติดต่อเรา | ส่งความคิดเห็น
Theme by 
Atmire NV