บทคัดย่อ
การศึกษานี้เป็นการวิจัยภาคตัดขวาง มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับตะกั่วในเลือดของประชาชนที่อยู่อาศัยอยู่ในบริเวณรองโรงงานหลอมตะกั่ว ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล และปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมกับระดับตะกั่วในเลือด โดยสุ่มตัวอย่างจากประชาชนอายุ 20 ปีขึ้นไป ที่อยู่อาศัยในชุมชนบริเวณรอบโรงงานหลอมตะกั่ว ในรัศมี 1 กิโลเมตร หลังคาเรือนละ 1 คน รวม 134 คน กลุ่มตัวอย่างเป็นหญิง 103 คน (ร้อยละ 77) ทำงานเกี่ยวข้องกับสารตะกั่วร้อยละ 12.7 ไม่เกี่ยวข้องกับสารตะกั่วร้อยละ 87.3 อาศัยอยู่ที่บ้านทุกวันร้อยละ 83.6 มีการศึกษาระดับประถมศึกษาร้อยละ 57.5 ระยะทางจากที่พักอาศัยถึงโรงงานไม่เกิน 500 เมตร ร้อยละ 54.5 ดื่มน้ำในภาชนะปิดสนิท ร้อยละ 71.6 การศึกษาพบระดับตะกั่วในเม็ดเลือดกลุ่มตัวอย่างเฉลี่ย 12.7 ไมโครกรัม/เดซิลิตร ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับระดับตะกั่วในเลือดอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (ค่าพี<0.05) ได้แก่ การศึกษา. ระยะห่างจากบ้านถึงโรงงาน, ที่พักอาศัยของประชาชน, การเลือกแหล่งน้ำดื่ม และให้ความรู้แก่ประชาชน เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น
บทคัดย่อ
This cross-sectional study was conducted to determine the lead levels in the blood
of people living within 1 kilometer of a lead smelter. The subjects included were 134
residents aged 20 years and older, randomly selected, one each from the households.
Among them, 103 (77%) were female, 12.7 per cent had occupational exposure to lead,
83.6 per cent spent their time at home seven days a week, 57.5 percent had a primary
education, 54.5 percent lived within 500 meters of the smelter, and 71.6 per cent drank
water from sealed containers. The average blood lead level was 12.7 micrograms/deciliter. Factors which were statistically and significantly associated with blood lead levels
were education level, distance from the smelter and source of drinking water. The results
of this study could be used to locate the hazardous zone surrounding the smelter, to
select safer sources of drinking water and to educate residents at risk in order to prevent
future health hazards