บทคัดย่อ
โรคหืดเป็นโรคที่มีอุบัติการณ์ ความชุกและภาระโรคสูงในประเทศไทย ในปัจจุบันยังไม่มีแนวทางการคัดกรองโรคหืดระดับประชากรในประเทศไทยที่ชัดเจน บทความนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อทบทวนแนวทางการคัดกรองโรคหืดระดับประชากร โดยแบ่งการดำเนินงานเป็น ๑) รวบรวมแนวเวชปฏิบัติทั้งในและต่างประเทศ และประชุมร่วมกับผู้เชี่ยวชาญเพื่อวางกรอบการศึกษา ๒) ทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบ (systematic review) ๓) สรุปผลการทบทวนต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อหาข้อสรุปสุดท้าย แนวทางเวชปฏิบัติในต่างประเทศและประเทศไทย รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหืดไม่กล่าวถึงหรือแนะนำการคัดกรองโรคหืดด้วยการตรวจทางห้องปฏิบัติการในประชากรทั่วไป แต่แนะนำให้คัดกรองผู้มีอาการจากการซักประวัติ การคัดกรองโดยพิจารณาจากประวัติผู้ป่วยและการตรวจสไปโรเมตรีย์ในเด็กไม่มีความคุ้มค่าในบริบทของประเทศสหรัฐอเมริกา แต่คุ้มค่าในเด็กที่วินิจฉัยว่าเป็นโรคหืดแต่ควบคุมโรคไม่ได้ ขณะที่การคัดกรองโดยแบบสอบถามอาจทำให้ค้นหาผู้ป่วยได้มากขึ้น ข้อสรุปจึงเป็นการไม่แนะนำการคัดกรองโรคหืดระดับประชากรในประเทศไทยด้วยวิธีการตรวจทางห้องปฏิบัติการ แต่แนะนำให้คัดกรองในผู้ที่ป่วยเป็นโรคหืดแล้ว แต่ยังควบคุมอาการไม่ได้ และควรพัฒนาแบบสอบถามเพื่อคัดกรองโรคหืดที่เหมาะสมกับสังคมไทย
บทคัดย่อ
Although asthma is a disease of high prevalence, incidence and burden of disease in Thailand, no
population-based screening guideline exists for the country. The purpose of this article was to review the
recommendations of population-based screening guideline for asthma in three phases: discussing guidelines
from Thailand and international literature with clinical experts for scoping of the research; conducting
a systematic literature review; and presenting preliminary recommendations to stakeholders. We found
no recommendation for asthma screening via laboratory testing in the general population. Asthma screening
through history-taking and spirometry was cost-effective only in children with uncontrolled asthma, but
not cost-effective in unaffected children, while screening with questionnaire could detect more patients.
In conclusion, screenings were recommended only in children with uncontrolled asthma. Moreover, appropriate
questionnaire for the Thai society should be developed to increase detection.